MACO is Thailand

หากคุณเป็นหนึ่งใน 70% ของแบรนด์อีคอมเมิร์ซที่เพิ่มงบประมาณการตลาดวิดีโอหลังเกิดโรคระบาด คุณอาจกำลังสงสัยว่าเงินของคุณจะได้รับผลตอบแทนสูงสุดได้ยังไง นี่คือแนวโน้มการตลาดวิดีโอที่คาดว่าจะเห็นในปี 2565 และปีต่อๆ ไป

1. โฆษณาวิดีโอโซเชียลมีเดีย
การโฆษณาวิดีโอของคุณบนโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในปี 2565 คาดว่า 1-5 ปี ของธุรกิจในสหราชอาณาจักรวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายสำหรับการตลาดโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น

ปี 2564 วิดีโอแนวตั้งเป็นรูปแบบที่กำลังมาแรงสำหรับโฆษณาโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าคุณจะสร้างโฆษณาบนโซเชียลมีเดียประเภทใด สร้างสรรค์และใช้ทั้งสองรูปแบบเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น ใช้แนวตั้งเมื่อมีคนอยู่บนหน้าจอหนึ่งคน จากนั้นเปลี่ยนไปใช้ฉากที่กว้างขึ้นซึ่งสามารถดูได้เมื่อผู้ใช้หมุนอุปกรณ์ในแนวนอน

2. วิดีโอที่ซื้อได้
อินเทอร์เน็ตเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้บริโภคที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ แต่พวกเขาไม่ได้ค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ใน Google เท่านั้น พวกเขากำลังเยี่ยมชมช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ เพื่อค้นหาคำแนะนำจากเพื่อนและผู้มีอิทธิพล

แบรนด์อีคอมเมิร์ซที่รู้สิ่งนี้กำลังใช้วิดีโอช็อปปิ้งเพื่อดึงดูดและเปลี่ยนผู้ดูให้ต่างจากการดูวิดีโอผลิตภัณฑ์ทั่วไป ที่บางครั้งจะมีข้อความป๊อปอัปให้คลิก ซึ่งจะเชื่อมโยงไปยังเสื้อผ้าหรือผลิตภัณฑ์ในวิดีโอ

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram และ Facebook กำลังเปิดตัวเนื้อหาวิดีโอที่ซื้อได้ในรูปแบบของตนเอง โดยเฉพาะแพลตฟอร์มโฆษณาของพวกเขา ซึ่งแบรนด์สามารถสร้างร้านค้าทั้งสองแพลตฟอร์มที่ดึงสินค้าคงคลังจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมาได้ ผู้ใช้โซเชียลมีเดียสามารถเห็นโพสต์พร้อมแท็กสินค้านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม และซื้อสินค้าจากร้านค้าโดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม

ทั้งนี้คาดว่านักการตลาด 40% จะใช้วิดีโอที่ซื้อได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยใช้แนวทางเดียวกันกับเนื้อหาอื่นๆ ให้สัมพันธ์กับหัวข้อที่ผู้ชมของคุณสนใจและนำเสนอคุณค่าของมัน

3. วิดีโอแบบสั้น
คนส่วนใหญ่ทุกวันนี้ยุ่งกับชีวิตของตัวเองมากพอแล้ว จึงไม่มีความคิดที่จะบริโภคเนื้อหาที่ใช้เวลานานกว่า 2-3 นาที นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญในการจัดทำคอนเทนท์ และหากคุณทำให้วิดีโอสั้นได้ โอกาสที่จะได้รับยอดดูก็จะเพิ่มขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ TikTok และ Instagram Reels มีผลตอบรับที่ดี

หัวหน้าที่ปรึกษาการตลาดจาก SurfShark บริษัท VPN ที่ให้บริการเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,700 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกมากกว่า 63 ประเทศ อธิบายว่า “TikTok คือหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมที่มีผู้ใช้งาน 800 ล้านคน ซึ่งเป็นรูปแบบวิดีโอขนาดสั้นโดยเฉพาะ ทั้งยังอนุญาตให้ผู้ใช้สร้างเนื้อหาที่สนุกสนาน มีส่วนร่วม และน่าตื่นเต้น ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น Reels ที่ Instagram สร้างขึ้นยังช่วยตอกย้ำว่าความนิยมในวิดีโอสั้นกำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก”

การหาวิธีบูรณาการความรู้และความบันเทิงในวิดีโอ TikTok หรือ Reels จึงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ โดยพิจารณารายละเอียดที่คุณสามารถทำได้ภายในเวลาไม่ถึง 20 วินาที เพื่อให้การนำเสนอนี้น่าสนใจและมีส่วนร่วมกับผู้ชม
 
4. การสตรีมวิดีโอสด
การเชื่อมต่อ ความใกล้ชิด ความถูกต้อง คือสิ่งที่ผู้คนต้องการจากแบรนด์ ดังนั้นโปรดเลี่ยงการพูดคุยเรื่องการขายและศัพท์ทางการ และหันมาใช้เนื้อหาวิดีโอที่แสดงถึงความมนุษย์และเชื่อมต่อกับผู้ที่มีโอกาสมาเป็นลูกค้าของคุณ เนื่องจากคุณไม่สามารถพบปะกับทุกคนได้ตลอดเวลา

การถ่ายทอดสดหรือสตรีมมิงแบบสดเติบโตขึ้นทั่วโลก ปีที่แล้วในสหราชอาณาจักรผู้คนใช้เวลาเกือบ 64% ในการดูวิดีโอ สิ่งนี้เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มโซเชียล Facebook ที่ได้รับส่วนแบ่งจากการดูวิดีโอสด ตามด้วย Snapchat, Instagram และ Twitter
 
โดยประมาณ 20% ของวิดีโอบน Facebook เป็นการถ่ายทอดสด และบน Twitter ผู้ใช้เห็น ผู้เข้าชมที่ไม่ซ้ำ เพิ่มขึ้น 14% ในระหว่างการถ่ายทอดสด หรือแม้แต่ LinkedIn ก็ยังมีดำเนินการถ่ายทอดสดต่างๆ

ทั้งนี้ 69% ของสมาชิกดูเนื้อหาสดเหมือนเดิมหรือมากกว่าก่อนการระบาดใหญ่ และใน Instagram พบว่า มีการใช้งานวิดีโอสดเพิ่มขึ้น 70% ภายในหนึ่งเดือนหลังจากการระบาดใหญ่

การวิดีโอแบบเรียลไทม์ ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ มีโอกาสเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้ชมและเพิ่มการแสดงตัวตนได้ คุณสามารถใช้การสตรีมวิดีโอเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ หรือ การถาม-ตอบผ่าน live สด รวมถึงถ่ายทอดการทำงานของผู้ที่อยู่เบื้องหลังของแบรนด์ได้อีกด้วย

5. วิดีโอแบบโต้ตอบ
ผู้คนไม่ต้องการเพียงแค่อ่านเนื้อหาเท่านั้น แต่พวกเขาต้องการดู เพราะมันน่าดึงดูดใจมากกว่า และยังเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นสามารถทำได้ด้วยการใช้วิดีโอแบบโต้ตอบ หรือ Live สดนั่นเอง

คุณอาจเคยเห็นวิดีโอโซเชียลมีเดียปรากฏขึ้นในหน้าฟีดของคุณ และในขณะที่รับชมก็จะมีวิดีโออื่นที่ฟีดเข้ามาให้คุณได้เลือกอีกมากมาย ซึ่งผู้ชมสามารถเลือกเนื้อหาที่สนใจได้
มีหลายวิธีในการทำให้วิดีโอของคุณเป็นแบบอินเทอร์แอกทีฟ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มแบบฟอร์มอีเมลสำหรับจดหมายข่าวของคุณ หรือใช้แชทบอทเพื่อตอบคำถามหลังวิดีโอ ที่กำลังได้รับความนิยมจากธุรกิจต่างๆ โดยในปี 2564 นักการตลาดวิดีโอ ประมาณ 24% ใช้มัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3% จากปี 2563

6. เพิ่มประสิทธิภาพวิดีโอสำหรับการค้นหา
โปรดจำไว้ว่าอินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลหลักสำหรับผู้บริโภค ทั้ง B2B และ B2C การเพิ่มประสิทธิภาพวิดีโอเป็นสิ่งสำคัญ

มีหลักฐานว่าการกด Like การแชร์ การดู และแสดงความคิดเห็นมีความสัมพันธ์อย่างมากกับการจัดอันดับใน YouTube ให้สูงขึ้น สิ่งที่น่าสนใจคือการเพิ่มประสิทธิภาพวิดีโอสำหรับการค้นหานั้น ทำได้มากกว่าแค่การไปที่หน้าหลักของ YouTube นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่วิดีโอของคุณจะถูกจัดอันดับในเครื่องมือการค้นหาที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Google อีกด้วย

7. ใช้แพลตฟอร์มโฮสติ้งที่เชื่อมต่อกับทีวี
ต้องขอบคุณสมาร์ททีวีที่ทำให้ผู้คนสามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเชื่อมต่อวิดีโอจาก YouTube และแพลตฟอร์มอื่นๆ กับหน้าจอขนาดใหญ่ได้
 
64% ของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรสตรีมวิดีโอบนทีวีมากกว่าการทำบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน มันแสดงให้เห็นถึงความชอบที่ผู้ชมของคุณมีต่อวิดีโอออนไลน์ และมันสมเหตุสมผลมากที่จะเพิ่มในกลยุทธ์การตลาดเนื้อหาของคุณ โดยเลือกแพลตฟอร์มการโฮสต์วิดีโอที่มีสตรีมในตัวไปยังทีวี เช่น YouTube เพราะผู้คนไม่เพียงแต่จะสามารถดูวิดีโอของคุณบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้เท่านั้น แต่คุณยังจะได้รับประโยชน์จากผู้คนนับล้านที่ค้นหาวิดีโอบนแพลตฟอร์มในทุกๆ วัน
 
ที่มา: https://thesocialshepherd.com