MACO is Thailand

อันที่จริงอารมณ์ขันในข้อความของสื่อนอกบ้าน (OOH) สามารถตัดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายและเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้าได้ดี และสิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้คนรับรู้ข้อความ แต่ยังสร้างความรักในตัวแบรนด์ ซึ่งท้ายที่สุดจะรับรู้ได้ใน ROI ของแคมเปญนั่นเอง

นี่คือตัวอย่างที่ผ่านมาของแบรนด์ใหญ่  2-3 แบรนด์ที่ใช้ประโยชน์จากความชาญฉลาดของพวกเขา ผลักดันให้เกิด Conversion ที่ตรงจุด

ไทม์ไลน์ Awful Taste ของ Buckley
 
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ยาแก้ไอ ในปี 2019 Buckley's ได้จัดทำแคมเปญโฆษณาในสถานีรถไฟใต้ดินของเมือง Toronto ด้วยการแสดงภาพ "ใบหน้าที่แย่ๆ" จำนวน 100 ภาพในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา โดยคอลเล็กชั่นโฆษณานี้มีความยาวครอบคลุมเกือบตลอดความยาวของรถไฟใต้ดิน การนำพานักเดินทางผ่านช่วงเวลาแห่งศตวรรษที่น่าจดจำและเฮฮาอย่างมีสไตล์ โดยเป็นภาพของผู้ใช้ยาแก้ไอ Buckley ที่หน้าตาบูดบึ้ง โดยจุดประสงค์ก็เพื่อยกระดับสโลแกนอันโด่งดังของบริษัทที่ว่า “รสชาติแย่มาก แต่มันก็ได้ผล” แคมเปญนี้ทำงานเป็นเวลากว่า 4 สัปดาห์ และสถานีนี้ยังครองตำแหน่งรถไฟใต้ดินที่พลุกพล่านที่สุดของเมืองอีกด้วย

แบนเนอร์นี้สร้าง "ความคิดริเริ่มแบบดิจิทัลที่เชื่อมต่อผู้คนไปยังเว็บไซต์ของ Buckley ซึ่งโฮสต์แกลเลอรีนี้สามารถโต้ตอบและช่วยให้ชาวแคนาดามีส่วนร่วมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน"

โฆษณาที่น่าขบขันเหล่านี้ดึงดูดใจผู้เดินทางทุกวัน ภาพถ่ายบุคคลแถวยาวเยียดที่ผสมผสานกับอารมณ์ขันของภาพถ่าย สร้างประสบการณ์ที่ลูกค้ามีส่วนร่วม ซึ่งมันสะท้อนให้กับใครก็ตามที่ยังจดจำความเจ็บปวดของการตักช้อนยาแก้ไอนี้เข้าปากในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง
 
แคมเปญ Grateful Britain – บทกวี (ตลก) ต่อวีรบุรุษ
  แคมเปญ DOOH ในเดือนเมษายน อุตสาหกรรมโฆษณากลางแจ้งในลอนดอนได้บริจาคพื้นที่สำหรับแคมเปญที่เรียกว่า "Grateful Britain" เพื่อแสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่บริการสุขภาพแห่งชาติและเจ้าหน้าที่ส่วนหน้าอื่นๆ ของประเทศ แคมเปญนี้ใช้ความโลดโผนเพื่อเน้นฮีโร่ที่ทำงานแนวหน้าผู้กล้าหาญซึ่งมีค่ามหาศาลตลอดช่วงล็อคดาวน์ โฆษณาไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขายสินค้า แต่เป็นช่องทางให้ชาวลอนดอนได้แสดงความขอบคุณต่อพนักงานที่สร้างแรงบันดาลใจและตลกขบขันไปในตัว
 
คุณเป็นคนใจร้าย…และเรารักมัน!
  ในเดือนพฤศจิกายนปี 2018 สตูดิโอของ Universal จำเป็นต้องโน้มน้าวใจชาวนิวยอร์กให้ไปที่โรงภาพยนตร์เพื่อชมภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง The Grinch และเพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจแตกต่างจากค่ายอื่นๆ Universal จึงได้สร้างป้ายโฆษณาที่มีไหวพริบที่เหมาะกับคนในพื้นที่ พวกเขาได้นำจิตวิญญาณที่โหดร้ายของ Grinch ตัวละครในเรื่องมาสู่ชีวิตจริง กระตุ้นให้เกิดการพูดถึงบนโซเชียลมีเดีย โดยการล้อเลียนผู้ที่ต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วบรอดเวย์ที่หาซื้อยาก ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าถึงกลุ่มประชากรครอบครัวที่เป็นกลุ่มมิลเลนเนียลได้ถึง 18% ของผู้ซื้อตั๋วในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เปิดตัว ซึ่งอายุระหว่าง 18-24 เมื่อเทียบกับ 12% สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่นก่อนหน้าของ Illumination Despicable Me 3 โดยโฆษณาไม่เกรงกลัวที่จะยั่วยุและยึดมั่นในสิ่งที่ผู้คนเกลียดเกี่ยวกับตัวละครคลาสสิกดังกล่าว และโฆษณาตัวนี้ก็สร้างชัยชนะครั้งใหญ่ให้กับ Universal

ไม่น่าแปลกใจเลยที่อารมณ์ขันกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงที่แบรนด์สามารถใช้เชื่อมต่อกับผู้ชมได้ เมื่อคุณสร้างมันขึ้นมาด้วยความเข้าใจและความซื่อสัตย์สุจริต โฆษณาที่ตลกขบขันสามารถสร้างความสัมพันธ์ของแบรนด์และสร้างอารมณ์เชิงบวกเพื่อนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนต้องการ การหัวเราะอย่างมีความสุขมากกว่าที่ผ่านมา
 
ที่มา: https://oohtoday.com