Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

วัดผลประสิทธิภาพสื่อโฆษณา OOH ได้อย่างไร?

         
          
          เมื่อพูดถึงการโฆษณาโดยเฉพาะสื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH) การวัดผลความสำเร็จถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายหรือจะทำได้อย่างตรงไปตรงมาเสมอไป และยิ่งในอดีตนั้นถือเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจอย่างถูกต้องว่าแคมเปญ OOH เข้าถึงกลุ่มคนที่เหมาะสมอย่างไร เมื่อไหร่ ที่ไหน
          แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากมาย ซึ่งช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถวัดประสิทธิภาพแคมเปญของตนได้อย่างแม่นยำที่สุด ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ เช่น อุปกรณ์ติดตาม GPS แบบสำรวจเทคโนโลยี Beacon ที่ขับเคลื่อนโดยการเชื่อมต่อ Wi-Fi, QR codes, Social Media Engagement และยอดขาย ซึ่งนี้เป็นเพียงไม่กี่วิธีในการติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญ OOH ซึ่งธุรกิจควรคำนึงถึงเรื่องการวัดประสิทธิภาพแคมเปญตั้งแต่ก่อนเริ่มทำแคมเปญ เพื่อการกำหนด KPI ที่ชัดเจนและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายของแคมเปญได้ โดยต่อไปนี้คือการวัดผลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้แน่ใจว่าแคมเปญโฆษณา OOH ของคุณไม่เพียง แต่จะประสบผลสำเร็จเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ธุรกิจของคุณใช้การวัดผลเพื่อเตรียมตัวก้าวไปสู่การวางแผนแคมเปญอื่นๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

การวัดยอดขาย
          วิธีที่ง่ายที่สุดและอาจชัดเจนที่สุดในการวัดประสิทธิภาพของ OOH คือการตรวจสอบยอดขายของธุรกิจของคุณในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังจากที่คุณดำเนินการแคมเปญ OOH หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนคุณจะเห็นยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ลูกค้าได้เห็นโฆษณา OOH ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเป็นวิธีที่ดูตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องที่สุดในการวัดประสิทธิผล หากธุรกิจของคุณใช้งานแคมเปญโฆษณามากกว่าหนึ่งแคมเปญในเวลาเดียวกันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกได้ว่าแคมเปญโฆษณา OOH นั้นเป็นแคมเปญที่กระตุ้นยอดขายหรือไม่ ดังนั้นบริษัทควรจะใช้หลายเครื่องมือร่วมกันเพื่อวัดประสิทธิภาพ วัด ROI รวมถึงการตรวจสอบยอดขายไปพร้อมๆกัน

การวัด Impression หรือ จำนวนการมองเห็น
          ทั้งนี้มีหลายปัจจัยในการวัดความสำเร็จของแคมเปญโฆษณานอกบ้าน (OOH) Paul Inman ได้เขียนบทความที่ดีที่สุดของเขาออกมาเผยแพร่ผ่านเว็ปไซต์ 75Media ได้เผยว่า “สื่อโฆษณานอกบ้านมีความพิเศษตรงที่สามารถให้การวัดที่ถูกต้องตามการมองเห็น ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมากกับสื่อส่วนใหญ่อื่นๆ ที่สร้างเมตริกตามจำนวนโดยการประมาณของผู้ที่มีแนวโน้มจะโต้ตอบกับโฆษณานั้นๆได้” ยิ่งไปกว่านั้น OOH มีความสามารถในการวัดการแสดงผลซึ่งโดยพื้นฐานแล้วหมายถึงการประมาณค่า (แต่มีความแม่นยำสูง) วัดจากจำนวนคนที่จะเดินผ่านและดูเนื้อหาของโฆษณา การแสดงผลสามารถวัดได้จากสิ่งต่างๆ เช่น การสำรวจการเดินทาง การสร้างแบบจำลองข้อมูล และข้อมูลสำมะโนประชากร ซึ่งในอดีตข้อมูลประเภทนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำ แต่ตอนนี้ข้อมูลเหล่านี้เน้นรายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ ทำได้ผ่านสัญญาณ GPS และ Wi-Fi ตัวอย่าง เช่น ผู้ขับขี่รถยนต์มักจะสังเกตเห็นป้ายโฆษณาตามเส้นทางสัญจรที่มีคนพลุกพล่าน ข้อมูลประเภทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ลงโฆษณา OOH เนื่องจากช่วยระบุรูปแบบและการเคลื่อนไหวของกลุ่มเป้าหมายได้
 
 
DOOH and mobile integration
          สำหรับสื่อโฆษณาประเภทเดียวกันอย่าง Digital OOH (DOOH) หรือป้ายโฆษณาดิจิทัล ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากความสามารถในการรวมเซ็นเซอร์และกล้องในตัวที่สามารถสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภคและวัดการมีส่วนร่วมได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถติดตามการแสดงผลด้วยวิธีนี้ แต่ยังสามารถจับคู่กับโปรโมชั่นโค้ด บัญชีโซเชียลมีเดีย QR Code และลิงก์ เพื่อทำการติดตามการใช้รหัสส่งเสริมการขาย ซึ่งความง่ายคือสามารถช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถติดตามกลุ่มเป้าหมายของตนได้อีกด้วย และยังรวมถึงผู้บริโภคที่เต็มใจและมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมกับโฆษณาที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้นจากผลการรายงานของ Nielsen พบว่า 66% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะทำการดำเนินการทางออนไลน์หลังจากเห็น โฆษณา OOH ดังนั้นการผสานรวมกันระหว่างโฆษณาออนไลน์กับ OOH ทำให้ประสิทธิภาพของการติดตามนั้นง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้นสำหรับนักโฆษณา
 

          ในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 Elle Eyewear ได้เปิดตัว "หน้าร้านดิจิทัล" เพื่อให้ผู้คนสามารถเลือกซื้อแว่นตาได้อย่างปลอดภัยในช่วงที่มีการระบาด ผ่าน QR Code ถูกเผยแพร่ไว้บนคีออสดิจิทัลบริเวณสถานีรอรถประจำทางและจอดิจิตอลในเมือง เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค พวกเขาเพียงสแกนโค้ดบนโฆษณาและจะถูกโอนไปยังเว็บไซต์ออนไลน์ที่มีตัวเลือกแว่นตามากมาย ทั้งนี้การใช้ QR Code ทำให้ผู้คนซื้อสินค้าได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดทั่วโลกและในช่วงเวลาที่ทุกคนมีอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้
 
 
กลยุทธ์การทำ Redirect
          การรวมเว็บไซต์ของบริษัทของคุณไว้บนโฆษณา OOH นั้นเป็นวิธีที่ชาญฉลาดอย่างมากในการติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญ เพราะหลังจากนั้นคุณสามารถใช้ประโยชน์จาก Google Analytics ในการวัดจำนวนผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งเป็นตัววัดการเข้าถึงที่ถูกต้องอย่างไม่น่าเชื่อ ในทำนองเดียวกันนั้นการใส่แฮชแท็กบนโซเชียลมีเดียก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการวัดความสำเร็จของแคมเปญของคุณเช่นกัน สำหรับการกำหนดแฮชแท็กเฉพาะแคมเปญให้กับโฆษณาของคุณและเมื่อผู้คนเริ่มใช้และมีส่วนร่วมกับโฆษณาทางออนไลน์ คุณจะวัดสามารถปริมาณการมีส่วนร่วมได้ทันที นอกจากนี้คุณยังสามารถวัดข้อมูลประชากรของผู้ที่มีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาของคุณได้โดยการจำกัด ขอบเขตของกลุ่มเป้าหมายให้แคบลง

Geofencing วิธีที่กำลังเป็นที่นิยม
          ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการใช้ Geofencing ได้เปลี่ยนเกมการวัด OOH Geofencing ไป ด้วยการนำเสนอโฆษณาบนมือถือที่สอดคล้องกันไปยังสมาร์ทโฟนของผู้คนจำนวนมาก ที่กำลังเคลื่อนที่ภายในพื้นที่ที่กำหนดเป้าหมายไว้ ซึ่ง Geofencing เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการระบุผู้ชมที่อยู่ใกล้กันและมีส่วนร่วมกับโฆษณาของคุณ จากนั้นคุณสามารถกำหนดเป้าหมายแคมเปญของคุณใหม่อีกครั้งเพื่อแสดงให้ผู้ชมกลุ่มเดิมได้เห็นผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง
          ตัวอย่างแคมเปญของ Zoom บริษัทประชุมทางเว็บและวิดีโอแบบ B2B ที่ได้ทำการทดลองใช้รถในบริเวณใกล้เคียงย่านเดนเวอร์เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม โดยภายในสองเดือนแคมเปญดังกล่าวสามารถสร้างการแสดงผลบนสื่อ OOH ได้กว่า 18.5 ล้านครั้ง ซึ่งพิสูจน์ได้จาก Geofencing ที่กำหนดบริเวณที่รถขับเข้าไปภายในพื้นที่ที่กำหนด โดยมีผู้ที่เข้ามาในโซนจะได้รับโฆษณาสำหรับ Zoom Video บนโทรศัพท์ หลังจากรวบรวมการแสดงผลแล้ว พบว่า Zoom สามารถส่งโฆษณาดิจิทัลเพื่อย้ำแคมเปญไปยังกลุ่มเป้าหมายผ่านการแสดงผลแบบออฟไลน์ได้กว่า 120,000 คน

กล่าวโดยสรุป
          สำหรับวิธีที่ดีที่สุดในการวัดประสิทธิภาพของแคมเปญ Out of Home media (OOH) คือการผสมผสานกลวิธีที่ได้ระบุไว้ข้างต้น ซึ่งเมื่อเชื่อมโยงทั้งหมดเข้าด้วยกันคุณจะเห็นได้ว่าแคมเปญโฆษณาสื่อโฆษณานอกบ้านของคุณมีประสิทธิภาพเพียงใด และจากข้อมูลทั้งหมดที่ได้รวบรวมไว้ จะทำให้คุณสามารถปรับแต่งแคมเปญ Out of Home media (OOH) ที่มีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์และสร้างผลกำไรได้มากที่สุด


ที่มา : https://movia.media/moving-billboard-blog/how-to-measure-ooh-advertising-effectiveness/