Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

5 เทรนด์ช้อปปิ้งในช่วงวันหยุดที่ควรรู้

เพื่อให้ผู้ค้าปลีกมีความรู้ในการสร้างกลยุทธ์ ผ่านประสบการณ์ดิจิทัลอันชาญฉลาด ในช่วงเทศกาลวันหยุด Sitecore ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมการซื้อของขวัญช่วงวันหยุดยาวของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาซึ่งจากผลการรายงาน Sitecore’s 2022 U.S. Holiday แสดงถึงความคิดที่ซับซ้อนของ ผู้บริโภคที่ยังต้องต่อสู้กับเหตุการณ์ต่างๆ ในโลก รวมถึงการคาดการณ์ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะถดถอยลงด้วย

ในขณะที่ชาวอเมริกันราว 53% คาดว่าจะใช้จ่ายเงินกับของขวัญในวันหยุดปีนี้เท่ากันกับในปี 2564  ซึ่งหลายคนกำลังมองหาวิธีที่จะประหยัดเงินในช่วงเทศกาลวันหยุดไว้ โดย 15% กล่าวว่าพวกเขาจะขายทรัพย์สิน  และจำนวน  7%  จะใช้ของขวัญแบบ Re-Gift  ส่วนอีก 17% จะใช้เวลาทำงานมากขึ้นเพื่อจ่ายค่าของขวัญช่วงเทศกาล ทั้งนี้จากการสำรวจ ได้พบข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม 5 ประการที่ผู้ค้าปลีกต้องนำมาพิจารณาเพื่อวางแผนแคมเปญช่วงเทศกาลวันหยุด โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

1. ช้อปปิ้งเพื่อบำบัดใจ ตามธรรมเนียมเทศกาลวันหยุดเป็นเวลาที่จะมุ่งเน้นไปที่เพื่อนและครอบครัว แต่เกือบหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 30% จะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพงในช่วงวันหยุดให้กับตัวเอง และเกือบครึ่งหรือราว 49% กล่าวว่าพวกเขามีส่วนร่วมกับการช้อปปิ้งบำบัดใจ เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นหรือหันเหความสนใจจากเหตุการณ์โลกที่เป็นปัญหา อาจไม่ได้ผลเสมอไป เนื่องจากผู้ซื้อสินค้าเองมากกว่าหนึ่งในสามราว 36% ยอมรับว่าพวกเขาไม่กล้าบอกว่าของขวัญคืออะไร เนื่องจากเขินอายหรือรู้สึกผิดในการซื้อของนั้น ทั้งนี้ผู้ค้าปลีกที่นำเสนอเนื้อหาที่ดึงดูดผู้บริโภคในแง่มุมเรื่องของคุณค่าร่วมกับสินค้าฟุ่มเฟือยเล็กๆ น้อยๆ ในการปรนเปรอตนเองจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากกว่า

2. ช้อปออนไลน์ แม้มีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถกลับมาซื้อของที่ร้านค้าได้อีกครั้ง แต่ผู้ตอบแบบสอบถามน้อยกว่าหนึ่งในสี่หรือจำนวน 21% เท่านั้น ที่วางแผนจะซื้อของในร้านค้าหลังจากใช้เวลาซื้อของออนไลน์มากกว่า 2 ปี  เห็นได้ว่าผู้บริโภคนั้นมีสัญญาณเพียงเล็กน้อยว่าจะกลับไปมีพฤติกรรมแบบเดิมๆ  โดย56%หรือส่วนใหญ่เลือกความสะดวก และเลือกช่องทางออนไลน์อยู่ที่ 61% อย่างไรก็ตามนักช้อปยังคงรู้สึกไม่สะดวกใจจาการระบาดใหญ่ และด้วยผลกระทบจากการกักตัว ซึ่งมากกว่าครึ่งหรือราว 60% เลือกที่จะช้อปปิ้งออนไลน์เพราะต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชนจำนวนมาก

จากผลสำรวจดังกล่าวนี้ ผู้ค้าปลีกควรตรวจสอบความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซอีกครั้ง เพื่อสร้างความสะดวกในการซื้อของรวมถึงกระบวนการชำระเงิน เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ช้อปปิ้งจากที่บ้านมากยิ่งขึ้น

3. ทำงานอย่างหนักเพื่อหาข้อตกลงระหว่างวันทำงาน ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อของเฉพาะเวลานอกเวลาเท่านั้น อันที่จริง เกือบสองในสามหรือจำนวน 62% ของผู้ปฏิบัติงานยอมรับว่าช้อปปิ้งในช่วงเวลาทำงาน โดยมากกว่าหนึ่งในสามหรือ 36% ใช้เบราว์เซอร์ลับในการเข้าช้อปปิ้ง ผู้บริโภคยังทุ่มเทในการค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุด โดย 16% ใช้เวลาสูงสุดสี่ชั่วโมงในการค้นข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ

ผู้ค้าปลีกควรปรับกลยุทธ์ในการส่งมอบเนื้อหา เพื่อให้แน่ใจว่าข้อเสนอและประสบการณ์ที่ผู้บริโภคจะได้รับตลอดทั้งวัน ไม่ใช่แค่ในช่วงเวลาที่มีการซื้อของสูงสุดแบบเดิมๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับส่งข้อมูลนี้

4. ช้อปปิ้งอย่างมีสติ เมื่อมีการแข่งขันด้านราคา 71% ของนักช็อปส่วนใหญ่ต้องการคำนวนการใช้จ่ายและจัดลำดับความสำคัญในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในอเมริกาและ 74% การช้อปปิ้งกับธุรกิจขนาดเล็ก, 57% กับธุรกิจที่เป็นคนผิวดำหรือชนกลุ่มน้อย ในขณะที่อีก 57% กล่าวว่าสิ่งสำคัญคือต้องมีผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นของคนผิวสีและชนกลุ่มน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการระบุหรือค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการเหล่านี้ สองในห้า หรือจำนวน 40% ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะจำแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้
สิ่งนี้เผยให้เห็นโอกาสสำหรับนักการตลาดที่นำเสนอแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในการเข้าถึงผู้ซื้อรายใหม่ๆผ่านข้อเสนอหรือประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น แบรนด์และผู้ค้าปลีกที่สามารถนำเสนอคอนเทนท์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ไม่เหมือนใคร (ตามความเป็นจริง) ควรผลักดันเนื้อหาเหล่านั้นด้วยกลยุทธ์ผ่านคอนเทนต์ต่างๆไปยังชุมชนที่ด้อยโอกาสให้ได้อย่างเหมาะสม

5. ค่าส่งฟรีหรือลดทันที ในขณะที่นักช้อปชอบซื้อของออนไลน์มากกว่ารอต่อคิวที่ร้านค้า สิทธิพิเศษบางอย่างมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อการซื้อของพวกเขามากขึ้น สำหรับนักช้อปออนไลน์จำนวน 45% การจัดส่งฟรีคือส่วนลดที่พวกเขาแสวงหามากที่สุด ตัวเลือกการจัดส่งคือกลยุทธ์การแข่งขันที่มีความสำคัญต่อผู้บริโภคมาก โดยหนึ่งในสามเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าจะไม่ซื้อสินค้าที่ไม่ได้มาพร้อมกับการจัดส่งฟรีคิดเป็นจำนวน 32% หรือจะซื้อมากขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำในการซื้อจำนวน 35%

ผู้ค้าปลีกควรพิจารณาเสนอส่วนลดในช่วงต้นเทศกาล เพื่อชักจูงให้นักช้อปหรือมอบสิทธิพิเศษอื่นๆ เพื่อนำพวกเขาไปที่ร้านหรือบนเว็บไซต์ เนื่องจากเทศกาลช้อปปิ้งในช่วงวันหยุดคือเรื่องที่ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ การทำความเข้าใจแนวความคิดของนักช้อปในช่วงเทศกาลสิ้นปีนั้น จึงสามารถช่วยพัฒนากลยุทธ์ของผู้ค้าปลีกมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นได้

ที่มา : https://adage.com