Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

​งานวิจัยเกี่ยวกับ GEN Z และ Metaverse

1. การรับรู้และความเข้าใจใน Metaverse ยังน้อยแต่การมีส่วนร่วมนั้นสูง
“โลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริงมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย” ผู้ใช้เทคโนโลยีชาวเกาหลีใต้ที่อายุ 18 ปีได้อธิบาย มุมมองนี้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของ Gen Z พวกเขามีเพื่อนที่โรงเรียน พวกเขาเล่นเกมกับเพื่อนเหล่านี้ ในขณะที่เวลาพวกเขาอยู่ที่บ้านพวกเขาใช้องค์ประกอบในเกมบนโลกของ metaverse ในการเล่นกับเพื่อนใหม่ๆที่พวกเขานั้นสร้างขึ้น

โดยสำหรับ Gen Z แล้วถึงแม้ว่าจะยังไม่ค่อยมีความเข้าใจมากหนัก แต่สำหรับ metaverse ถือเป็นเพียงโลกอีกใบที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นเอง ซึ่งขอบเขตต่างๆ เริ่มเบลอหรือมีการผสมผสานกันมากขึ้น โดยความแตกต่างที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือในประสบการณ์ที่พวกเขาจะได้รับใน Metaverse นั้นเอง

2. ประสบการณ์ทางสังคมเป็นกุญแจสำคัญของ Metaverse
“คุณเข้าสังคมอยู่เสมอ” เป็นคำกล่าวของผู้ใช้เทคโนโลยีวัย 25 ปีจากสหรัฐอเมริกา และกล่าวเพิ่มเติมว่า “คุณสามารถเล่นเกมที่สามารถออกแบบหรือปรับแต่งเองได้ โดยองค์ประกอบทางสังคมทำให้ชุมชนออนไลน์ยังรู้สึกถูกเชื่อมต่อกัน ซึ่งไม่ใช่แค่เหมาะสมกับแค่บางคนเท่านั้น ที่จะบอกได้ว่าเราควรเล่นอะไร แต่มันต้องเป็นเกมที่ขับเคลื่อนโดยผู้เล่นที่หลากหลาย”

Metaverse คือที่ที่ Gen Z สามารถค้นหาการเชื่อมต่อกับผู้ที่มีความสนใจเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายในแง่ของขอบเขตทางภูมิศาสตร์ที่จะต้องสร้างการมีส่วนร่วมในประสบการณ์เสมือนจริงกับคนที่พวกเขาให้ความสำคัญ เช่นเดียวกันกับโลกแห่งความจริงที่กลุ่มคนถูกจัดกลุ่มเข้าด้วยกัน เช่น ในชั้นเรียนที่โรงเรียนและบุคคลต่างๆ ต้องหาคนที่มีความสนใจที่คล้ายคลึงกัน มาแชร์ความสนใจร่วมกัน ซึ่งการทำสิ่งนั้นใน Metaverse จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

3. เอกลักษณ์ใน Metaverse เป็นโอกาสใหม่ในการทดลอง
“Metaverse นั้นดีสำหรับคนที่ต้องการเป็นตัวของตัวเองแต่ไม่สามารถอยู่ในชีวิตจริงได้” เด็กสาววัย 18 ปีจากสหรัฐฯพูดถึง Metaverse ที่นำเสนอโอกาสในการทดลองเกี่ยวกับการสร้างอัตลักษณ์โดยปราศจากอคติ ซึ่งมักจะรู้สึกได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้นการสร้างอวาตาร์จึงสะท้อนแง่มุมด้านการส่งเสริมตัวตนที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกอิสระที่จะเป็น "ตัวเอง"

4. สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสิ่งที่จับต้องได้
ในระหว่างการประชุม Roblox Developers Conference ในปีนี้ มีการประกาศว่าโฆษณาในเกมจะเปิดตัวบนแพลตฟอร์มในปีหน้า ในขณะที่ Gen Z ตระหนักดีถึงทรัพย์สินดิจิทัล ด้วยการซื้อไอเท็มในเกมจำนวนมากหรือการเพิ่มระดับ หลายคนมีความระมัดระวังในการพยายามที่จะทำการค้าบนโลก Metaverse โดยหนึ่งในนั้นคือเด็กอายุ 25 ปีจากบราซิล ที่ได้กล่าวว่า “ฉันไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงนี้ MOBA [เกมต่อสู้ออนไลน์แบบผู้เล่นหลายคน] เป็นเกมที่จ่ายเพื่อชนะเพราะคุณสามารถซื้อไอเท็มที่ดีที่สุดได้นั้นเอง”

ความกังวลว่าเงินและการค้าอาจทำให้ Metaverse ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ความไม่เท่าเทียมและการติดกับของ Gen Z หลายคนนั้น พวกเขาแสวงหา metaverse ที่มีความเสรี ยุติธรรม และยืดหยุ่นได้สำหรับทุกคน

5. เทคโนโลยีเป็นศูนย์กลางของแนวคิดเรื่อง Metaverse
“แว่นตา VR เป็นเทคโนโลยีชิ้นโปรดของฉัน” เด็กวัย 24 ปีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อธิบาย “พวกเขาอนุญาตให้ฉันมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น เครื่องบินที่บินได้และการขับรถเป็นเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมมาก” พวกเขาได้รับอิทธิพลจากโลกเสมือนจริงแห่งอนาคตในวัฒนธรรมแบบสมัยนิยม ซึ่งเทคโนโลยีที่สร้างความหวังมากมาย เช่น VR และ AR ที่จะสามารถนำระดับการดื่มด่ำและประสบการณ์มาสู่ Metaverse ได้ในระดับที่สูงขึ้น การเข้าถึงยังคงเป็นข้อกังวล โดยหลายคนจาก Gen Z ระบุว่าความไม่เท่าเทียมกันเป็นรากเหง้าของปัญหา

6. Gen Z ต้องการสร้าง Metaverse  นี่คือค่านิยมของพวกเขา
ความกระตือรือร้นในอนาคตของ metaverse โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการเข้าสังคมและเล่นผ่านประสบการณ์เสมือนจริงที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ Gen Z รู้สึกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในอนาคตต่อสังคมและบทบาทของความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมใน metaverse ที่จำกัดการเข้าถึงสำหรับทุกคน เช่น “เมื่อคุณมีรายได้น้อย” ชายอายุ 18 ปีจากสหรัฐอเมริกาอธิบาย “มันไม่เกี่ยวกับเสื้อผ้าที่เท่ แต่เกี่ยวกับการมีเสื้อผ้า ถ้าฉันต้องเลือกระหว่างมีบางอย่างในชีวิตจริงหรือ Roblox ฉันจะเลือกมีในชีวิตจริงทุกครั้ง”
เพื่อเป็นการปลดปล่อย Metaverse พื้นที่ที่เปิดกว้างต่อการแสดงออกอย่างอิสระตามต้องการ ซึ่งอาจจะถูกกีดกันและจำกัดเข้าถึง Gen Z จึงต้องการในมีบทบาทกำหนดรูปแบบดังกล่าว

ที่มา : www.nokia.com