Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

แนวโน้มของผู้บริโภคเอเชียแปซิฟิกใต้ ปี 2022

การระบาดครั้งใหญ่ทำให้เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลก และสองปีที่ผ่านได้ทำให้ผู้บริโภคสร้างพฤติกรรม ทัศนคติ และค่านิยมใหม่ๆ แนวโน้มผู้บริโภคปี 2022 จึงต้องตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคเหล่านี้ และแบ่งปันการคาดการณ์ว่าแบรนด์ต่างๆ จะสามารถเตรียมพร้อมสำหรับวิวัฒนาการในพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และนี่คือผลการสำรวจแนวโน้มสามประการของผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้

เทรนด์ 'Enjoyment Everywhere' การค้นหาและรักษาความสุขแบบผสมผสาน
ผู้บริโภคในภูมิภาคนี้มองหาการหลุดพ้นจากขอบเขตต่างๆ และแสวงหาความเพลิดเพลินที่มากกว่าปกติ โดยผู้บริโภคชาวอินเดียเกือบครึ่งเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าพวกเขาแสวงหาความสนุกสนานในทุกแง่มุมของชีวิต สิ่งนี้จะมีความสำคัญโดยเฉพาะในอีก 1 ปีข้างหน้า เนื่องจากผู้บริโภคกำลังเตรียมเทคโนโลยีเพื่อดื่มด่ำกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้มีความผ่อนคลายและมีความรู้สึกปิติยินดี นี่จึงเป็นสาเหตุให้แบรนด์ต่างๆ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความแตกต่างในตัวเอง

ยกตัวอย่างเช่น Dom's Bar & Kitchen ในมาเลเซีย ซึ่งได้รวมเทคโนโลยี AR ไว้ในเมนู ทำให้แขกสามารถสแกนและดูโมเดล 3 มิติของตัวเลือกอาหารและเครื่องดื่มได้ ทั้งยังเปลี่ยนภาพวาดฝาผนังภายในร้านและทำให้พวกมันมีชีวิตชีวาด้วยการใช้ฟิลเตอร์ AR เพื่อประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบอินเทอร์แอกทีฟมากขึ้น

ในขณะที่ผู้บริโภคยังคงมองหาวิธีที่จะปรับปรุงชีวิตของพวกเขา ทางแยกระหว่างโลกทางกายภาพและโลกดิจิทัลจะมีความเป็นธรรมชาติและราบรื่นยิ่งขึ้นในอีกห้าปีข้างหน้า ผู้บริโภคจะพบจุดสมดุลระหว่างสองสิ่งนี้

การแสวงหา 'ความสุขภายใน' นี้ผู้บริโภคชาวเวียดนามมากกว่า 1 ใน 3 กล่าวว่าการสำรวจจิตวิญญาณของพวกเขาเป็นหนึ่งในความสำคัญอันดับแรกด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ในขณะที่ผู้บริโภคในนิวซีแลนด์ครึ่งหนึ่งเข้าร่วมในกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเดินและการดูนก ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียมากกว่าครึ่งต่างพยายามหาวิธีหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อจากสมาร์ทโฟนตลอดทั้งวัน

เทรนด์ 'In Control' ผู้บริโภคนั่งเบาะคนขับ ส่วนแบรนด์ต้องเป็นผู้ปูทาง
ความไม่แน่นอนของการระบาดใหญ่ได้ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภคในการเสริมอำนาจและการมีสิทธิ์เสรีมากขึ้น ซึ่งแบรนด์จะต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคต้องการความช่วยเหลือและต้องการรับความช่วยเหลือต่างๆ อย่างไร โดยผู้บริโภคจะแสวงหาพันธมิตรจากแบรนด์ที่สนใจในประเด็นที่มีความสำคัญต่อพวกเขาและมองหาแบรนด์ที่จัดหาเครื่องมือเพื่อช่วยทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองสามารถควบคุมมันได้

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อจัดการกับข้อมูลเท็จทางออนไลน์ และในปัจจุบันผู้บริโภคไม่เพียงแต่คาดหวังว่าแบรนด์ต่างๆ จะให้ข้อมูลที่เป็นจริงแก่พวกเขาเท่านั้น แต่ยังต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาให้ปลอดภัย และจากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ 80% นั้นเห็นด้วยกับเรื่องนี้
 
เราจะเห็นผู้บริโภคใช้แอปพลิเคชั่นมือถือและเทคโนโลยีเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายมากขึ้น พวกเขาจะมองหาวิธีที่จะเป็นอิสระและมีความยืดหยุ่นเพื่อให้ตนเองมีความรู้สึกว่าเป็นผู้ควบคุม โดยเทคโนโลยีและทรัพยากรเหล่านี้จะต้องพร้อมใช้งานและรวมเข้ากับชีวิตที่วุ่นวายของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

การช่วยโลกอยู่ในใจของผู้บริโภค
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ การเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นกระแสหลัก และผู้บริโภคเรียกร้องให้ภาคธุรกิจและรัฐบาลหาทางแก้ไข โดยผู้บริโภคจะมองโลกในแง่ดีและต้องการสร้างความแตกต่าง โดย 2 ใน 3 ของผู้บริโภคชาวไทยเชื่อว่ายังมีเวลาที่จะกอบกู้โลกหากเราดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้

Mintel บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค กล่าวว่า “ผู้บริโภคจะเริ่มเรียกร้องความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับ ‘Carbon Footprint’ หรือปริมาณรวมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พวกเขาซื้อ พวกเขาจะมองหาบริษัทที่เสนอทางเลือกการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศและมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจซื้อที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศ”

และเมื่อผลกระทบของวิกฤตการณ์สภาพอากาศเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผู้บริโภคก็คาดหวังผลประโยชน์ที่จับต้องได้จากการกล่าวอ้างของแบรนด์ด้วยเช่นกัน โดยพวกเขามักจะเต็มใจจ่ายมากขึ้นสำหรับสินค้าพื้นฐานต่างๆ และแบรนด์จะต้องวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของตนไว้ที่จุดและราคาที่เหมาะสม พร้อมขับเคลื่อนการสนทนาด้านความยั่งยืนในทางที่ถูกต้อง โดยไม่สูญเสียปัจจัยพื้นฐาน เช่น ความปลอดภัย คุณภาพ และการใช้งาน
 
ที่มา : https://www.mintel.com