MACO is Thailand

ที่มา : www.adweek.com 
 

ทวิตเตอร์ (Twitter) กำลังเน้นด้านการตลาดที่เกี่ยวกับประสบการณ์นอกบ้านของผู้คนมากขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นนำเสนอผ่านโลกจริงที่ไม่ใช่เพียงบนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาในรถไฟใต้ดินหรือการนำเสนองานป๊อปอัพ (Pop-up Activation) ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งบริษัทต้องการทำให้ผู้บริโภคทั่วไปรู้สึกว่าแบรนด์มีความจับต้องได้มากขึ้น 

“ถ้าไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสามารถหาสิ่งที่บ่งชี้ใดๆ ก็จะเห็นว่าการตลาดที่มุ่งเน้นด้านการสร้างประสบการณ์แบบมีส่วนร่วมเมื่ออยู่นอกบ้านเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก” กล่าวโดย
Nola Weinstein หัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรม และยังกล่าวถึงการตลาดแบบมีส่วนร่วมหรือการตลาดเชิงประสบการณ์สำหรับทวิตเตอร์ด้วยว่า “พวกคุณสามารถคาดหวังได้เลย ว่าจะได้เห็นงานประเภทนี้มากขึ้นจาก ทวิตเตอร์ (Twitter)” 

จนถึงปีนี้ ทวิตเตอร์ได้เพิ่มการใช้จ่ายสื่อโฆษณานอกบ้านมากขึ้นถึง 50% ต่อปี บริษัทไม่ได้ให้ข้อมูลตัวเลขเพื่อเปรียบเทียบการใช้จ่ายของ OOH ในปี 2561 กับค่าใช้จ่ายที่ใช้ในปี 2562 โดยช่วงต้นฤดูร้อนนี้บริษัทได้เปิดตัว Global Experiential Activation , #TweetUps ครั้งแรกใน 40 ที่ทั่วโลก รวมถึงเมืองต่างๆ เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว และลอสแองเจลิส

เช่นเดียวกับดิจิทัลแพลตฟอร์มของแบรนด์ท้องถิ่นเองที่มีเอกลักษณ์คือการนำเสนอทางดิจิทัลเป็นหลัก ก็กำลังมองหาหนทางที่จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่ OAAA รายงานเมื่อต้นฤดูร้อนนี้ โฆษณาสื่อนอกบ้าน เพิ่มขึ้น 7.7% ในไตรมาสที่สองของปีนี้ ซึ่งเป็นไตรมาสที่เติบโตสูงสุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา และยิ่งไปกว่านั้น พบว่า มากกว่าหนึ่งในสี่ของ 100 แบรนด์ชั้นนำที่มีการเพิ่มการใช้จ่ายบนสื่อโฆษณานอกบ้าน คือแบรนด์ประเภทเทคโนโลยี สำหรับการตลาดแบบสร้างประสบการณ์ AgencyEA พบว่า 92% ของแบรนด์เชื่อว่าประสบการณ์นั้นเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มยอดขาย และ 67% ของนักการตลาด B2B วางแผนที่จะเพิ่มการทำการตลาดแบบสร้างประสบการณ์ในแคมเปญต่างๆในปีนี้
“ในการจะชนะ คุณต้องเชื่อมต่อและเข้าถึงกับผู้บริโภคได้ในระดับอารมณ์ ซึ่งงานที่มีการสร้างการมีประสบการณ์ร่วมเป็นวิธีที่จะสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์และเข้าถึงความรู้สึกของมนุษย์ได้ดี” กล่าวโดย K.J. Ho, รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจของOptimist “ภารกิจนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์อย่าง ทวิตเตอร์ (Twitter) ที่กำลังพยายามสร้างความสัมพันธ์ความมีส่วนร่วมกับแบรนด์ และยังตั้งเป้าที่จะแสดงตัวตนจากโลกดิจิตอลสู่โลกทางกายภาพ”

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 Twitter ใช้งบโฆษณาทั้งหมด 9.5 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 8.8 ล้านดอลลาร์ ที่ใช้ไปในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ตลอดทั้งปี 2561 Twitter ใช้จ่ายงบโฆษณาทั้งหมด 15.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 9.2 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปี 2560 ซึ่งไม่ได้ร่วมตามการใช้จ่ายเพื่อสังคม ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของแบรนด์คือการสร้างกิจกรรมหรือใช้การโฆษณาสื่อนอกบ้าน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้ใช้ ทวิตเตอร์ (Twitter) ที่กำลังทำกิจกรรมนั้นๆอยู่ เช่น งาน #TweetUp หรือแคมเปญ “Me on Twitter” ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคพูดคุยและมีส่วนร่วมออนไลน์ โดยเฉพาะบน Tweet 

เวนสไตน์กล่าว “ผู้ใช้ Twitter สะท้อนสิ่งที่พวกเขาเห็นตลอดช่วงแคมเปญ พวกเขาจะเห็นทวีตต่างๆและพวกเขาก็จะทวีตต่อๆกันแบ่งปันเรื่องราวบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ร่วมทั้งเพื่อน ๆ ให้รับรู้อีกด้วย”

“เราคิดว่าแทนที่จะมองพวกเราในฐานะแบรนด์ที่สร้างสรรโฆษณา แต่เราอยากให้คุณมองว่า Twitter คืออะไรที่มีอำนาจมากกว่านั้น ซึ่งเรายอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ใช้ Twitter นั้นได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นความจริง” เวนสไตน์กล่าว “พวกเขามีส่วนร่วมในการสร้าง memes และพวกเขาแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาคิดบน Twitter ได้อย่างอิสระ และนั้นคือสิ่งที่เป็น Twitter ซึ่งพวกเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า Twitter คืออะไรสำหรับพวกเขา”

ที่มา : https://digiday.com