Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

Social Commerce มาแล้ว แต่ผู้บริโภคพร้อมหรือยัง?

ระหว่างปุ่ม “Buy it” บน Pinterest กับ shoppable ใน Instagram ทำให้เราเห็นว่า social commerce ไม่ได้เป็นแค่ฟีเจอร์ในอนาคตอีกต่อไป แต่มันมาถึงยุคของเราแล้วจริงๆ

อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเอเจนซี่และแผนกการตลาดต่างๆ กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเทคโนโลยีพวกนี้ดำรงอยู่ซักเท่าไหร่ ที่ South by Southwest และ Shoptalk เว็บไซต์  Adweek ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญสามคนเพื่อดูว่าพวกเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับ social commerce และความเป็นไปได้ในการดึงมันเอามันมาใช้กับแคมเปญต่างๆ ในปัจจุบัน

ยังคงมีแรงเสียดทานบางอย่างในกลุ่มผู้บริโภค
ในขณะที่ Jordan Brands ขายรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดหมดเกลี้ยงบน Snapchat แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทำได้ในทุกแบรนด์

“มีแรงเสียดทานมากมายจากผู้ใช้ในการทำตามขั้นตอนการซื้อ เพราะมีเส้นการเรียนรู้เรื่องการซื้อของบนแพลตฟอร์มใหม่นี้” Octavio Maron เอ็กเซคูทีฟ ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ของ Fetch บริษัทโมบายมาร์เกตติ้งกล่าว

Jonathan Liew ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์จาก Fetch คิดว่าการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีผลแค่กับคนที่สามารถปรับตัวได้เร็วเท่านั้น คืออาจจะไม่ได้ขายได้กับทุกคน แต่จุดที่สำคัญยิ่งกว่าคือมันเป็นตัวจุดประกายแรงบันดาลใจในการซื้อที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง (สร้างความอยากได้) และเขาไม่ใช่คนเดียวที่คิดเช่นนี้

“ถ้าคุณดูจำนวนคนที่ Pinterest ส่งไปยังไซต์อีคอมเมิร์ซนั้นจะเห็นว่ามีไม่มากนัก” Jason Goldberg SVP ฝ่ายการค้าและคอนเทนท์จาก SapientRazorfish กล่าว “แต่คนที่พวกเขาส่งไปยังเว็บเหล่านั้นมีเจตนาในการซื้ออย่างแรงกล้า เนื่องจากพวกเขาได้ค้นพบสิ่งที่พวกเขาต้องการซื้อแล้ว ดังนั้นมันจึงส่งผลต่อยอดขายอย่างแท้จริง”

ถึงแม้เทคโนโลยีจะยังไม่พร้อมที่จะใช้งาน แต่ Maron ก็คิดว่าน่าจะมีวิธีการตรวจสอบสำหรับคนจริงที่จะซื้อสินค้ากับบอท

Goldberg ยังชี้ให้เห็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่างแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ และ Snapchat กล่าวคือใน Snapchat ผู้ใช้สามารถเลือกขนาดและสีสันของสินค้าที่ชัดเจนมากกว่าบนไซต์อื่น ๆ

Goldberg กล่าวว่า “เกือบทุกโซเชียลมีจุดหนึ่งที่เป็นการผสมผสานที่น่าอึดอัดใจ แต่สิ่งที่ Snap ทำคือการเพิ่มฟังก์ชั่นขายของเข้าไปบนแพลตฟอร์ม Snap ขายของให้คุณบนแพลตฟอร์มของ Snap เอง พวกเขาไม่ไล่คุณออกจากแพลตฟอร์มแล้วพุ่งตรงไปที่อื่น”

Social commerce ทำให้แบรนด์หันมาทบทวนกลยุทธ์เว็บไซต์ของตนใหม่

“ก่อนหน้านี้แผนกต่างๆ ในบริษัทมักคิดว่าควรใช้เว็บไซต์ของตนเพื่อการขายสินค้าหรือควรมองว่ามันเป็นร้านค้าของแบรนด์” Steve White VP ฝ่ายกลยุทธ์การค้าของ SapientRazorfish กล่าว “แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเปลี่ยนไปสู่สื่อโซเชียลที่เป็นศูนย์กลางของจักรวาลสำหรับ micro influencer และสิ่งต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ไซต์ของตนมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นหรือกว้างกว่าที่เคยคิดไว้”

แบรนด์ยังสามารถเลือกที่จะขายสินค้าพิเศษที่มีเฉพาะบนโซเชียลก็น่าสนใจ แบบที่ Allbirds ทำกับคอลเล็กชันวันเกิดของพวกเขาบน Instagram แทนที่จะขายบนแคตาล็อก White กล่าว

แพลตฟอร์มโซเชียลเหล่านี้ยังเปิดโอกาสในการจัดอีเวนท์พิเศษต่างๆ อย่างที่ Snapchat และ Jordan Brands เป็นพาร์ทเนอร์กัน

“บนโลกโซเชียลมันเหมือนมีพื้นที่มากมายให้เราได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ด้วย” Liew กล่าว “อย่างวิดีโอ ที่อาจจะเป็น QVC ต่อไปใน Facebook ซึ่งจะสร้างความน่าสนใจ ความเร่งด่วน และสร้างให้เกิดอีเวนท์”

ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับผู้บริโภคจะไปอยู่ที่ไหน?

“คำถามคือ การซื้อขายแบบ Social commerce นี้คุณจะสามารถรับข้อมูลลูกค้ากลับมาใช้ได้ไหม และคุณจะสามารถควบคุมประสบการณ์ลูกค้าแบบ end-to-end ได้หรือเปล่า?” Steven Wolfe Pereira CMO ของ Quantcast กล่าว

ดังนั้นในขณะที่ทุกคนรู้ว่ามันสำคัญในการพาตัวเองอยู่ในโลกโซเชียล Wolfe Pereira จึงเตือนไม่ให้ไปสุ่มสี่สุ่มห้าเมื่อบริษัท ด้านเทคโนโลยีเหล่านี้มีส่วนแบ่งการตลาดด้านโฆษณาดิจิทัลเป็นจำนวนมาก

Wolfe Pereira กล่าวว่า “ร้านค้าอาจอยากลองใช้วิธีนี้ดู แต่สำหรับ Native Vertical Brand แล้วการสร้างธุรกิจเต็มรูปแบบของพวกเขาบน Instagram หรือ Snap หรืออะไรก็ตามผมคิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งเพราะพวกเขาไม่มีข้อมูลของ First Party เลย”

www.brandbuffet.in.th