Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

5 ดิจิทัลเทรนด์ จาก Cyber Monday and Black Friday

ทุกวันนี้คุณสามาซื้อน้ำมะพร้าวในราคา 18 ดอลลาร์ได้จากอะเมซอน แม้ว่าจริงๆแล้วราคาของมันคือ 28 ดอลลาร์ หรือซื้อทีวีโตชิบาได้ในราคาที่ดีที่สุดจากโปรโมทชั่นในเว็บไซต์ต่างๆ นี่คือการซื้อขายออนไลน์ในปัจจุบัน ที่ดูเหมือนผู้บริโภคจะเป็นคนที่มีอำนาจเหนือร้านค้าไปเสียแล้วในโลกอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะโปรโมชั่นช่วง Holiday เรามาดูกันว่า 5 สถิติดิจิทัลเทรนด์เกี่ยวกับวิธีการช้อปปิ้งออนไลน์ของลูกค้าเป็นอย่างไร  

1. Cyber Monday frenzy
พบว่า กว่า 80% ของลูกค้าจาก 100 ร้านค้ารายใหญ่ มีการใช้จ่ายถึง 840 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลา 10 โมงของวันจันทร์ คิดเป็นร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังมีการคาดการณ์ว่าวันจันทร์จะเป็นวันช็อปปิ้งออนไลน์ที่มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีอัตราการเข้าชมเว็บเพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ มีการซื้อโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.3 และ 39.7 เปอร์เซ็นต์ของรายได้

2. Early bird shopping
ผู้บริโภคช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ด้าน Walmart, Toys R Us และ Target เป็นกลุ่มผู้ค้าปลีกที่เริ่มมีข้อเสนอทางออนไลน์ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

ผู้บริโภคใช้เวลา 15.12 พันล้านดอลลาร์ในวันเสาร์และอาทิตย์ซึ่งเติบโตขึ้น 10.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี การค้นหาโฆษณาทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 22.4% จากสื่อที่เสียค่าใช้จ่ายขณะที่ปริมาณการเข้าชมโดยตรงเพิ่มขึ้น 26.9% และอีเมลมีส่วนกระตุ้นยอดขายขึ้นเป็น 19.7%

3. Small-screen shopping
จากข้อมูลของ Salesforce โทรศัพท์มือถือคิดเป็น 64% ของช่องทางช้อปปิ้ง สำหรับยอดขายโทรศัพท์มือถือคิดเป็น 43% ของยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า

4. Message overload
ร้านค้าที่ส่งเมลจำนวนมากและมีการแจ้งเตือนกับลูกค้าในช่วงเทศกาลวันหยุด นำเสนอข้อเสนอพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันศุกร์ก่อนวันคริสมาสต์เป็นวันที่มีการจับจ่ายมากที่สุดในสหรัฐฯ ร้านค้าจะส่งเมลมากกว่า 82 ล้านฉบับ เพื่อแจ้งเตือนโปรโมชั่นต่างๆ และต้องการให้ลูกค้าเข้ามาสมัครสมาชิกสั่งซื้อ

5. Small retailers nail mobile
น่าแปลกใจไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ ๆ ที่กำลังขับเคลื่อน Conversion บนมือถือ แต่กลับเป็นเว็บไซต์จากร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่มีรายได้ไม่เกิน 10 ล้านเหรียญหรือน้อยกว่าสองเท่าของร้านค้าปลีกรายใหญ่ที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญขึ้นไป

ขณะที่การซื้อขายในวันเสาร์ของธุรกิจขนาดเล็ก ผู้บริโภคมีการซื้อสินค้าจากร้านค้าในท้องถิ่นผ่านการเข้าชมบนมือถือคิดเป็น 56.7% ของปริมาณการเข้าชมเว็บทั้งหมด โดยระบุว่าร้านค้าปลีกขนาดเล็กให้บริการไซต์บนมือถือที่ง่ายและใช้งานง่าย