MACO is Thailand

1. นักการตลาดจะใช้ AI และระบบอัตโนมัติในรูปแบบที่เป็นนวัตกรรมมากขึ้น
AI และระบบอัตโนมัติมีผลกระทบอย่างมากต่อโลกของการตลาดดิจิทัล สิ่งเหล่านี้ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรผ่านการใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น แชทบอทและอีเมล รวมทั้งกำลังช่วยปรับปรุงการกำหนดกลุ่มเป้าหมายและการปรับแต่งให้แบบเฉพาะเจาะจง สำหรับส่วนของ Learning Algorithms นั้นสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อช่วยให้นักการตลาดสามารถเกิดความเข้าใจต่อพฤติกรรมความชอบและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ โดยสามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่อมอบประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

2. การฟื้นตัวของการโฆษณาตามบริบทและการเก็บข้อมูล
หลายคนจะเปลี่ยนจากการโฆษณาแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นการโฆษณาตามบริบท แทนที่จะใช้คุกกี้เพื่อแสดงโฆษณาตามประวัติการเข้าชมและข้อมูลประชากรของผู้ใช้ การโฆษณาตามบริบทจะใช้บริบทของหน้าเว็บหรือแอปที่แสดงโฆษณาเพื่อกำหนดความเกี่ยวข้องกับผู้ชม ตัวอย่างเช่น การแสดงโฆษณาสำหรับตัวแทนการท่องเที่ยว ในบล็อกการท่องเที่ยวแทนที่จะเป็นบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่เคยแสดงความสนใจในการท่องเที่ยว วิธีการนี้สามารถเข้าถึงผู้ชมที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องใช้คุกกี้หรือข้อมูลส่วนบุคคล

นอกจากนี้ อาจเห็นนักการตลาดจำนวนมากขึ้นให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์แบบบุคคลที่หนึ่งกับลูกค้า ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการตลาดทางอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือช่องทางอื่น ๆ ที่ช่วยให้เราสามารถสื่อสารโดยตรงกับลูกค้าและรวบรวมข้อมูลโดยได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากพวกเขา ด้วยการสร้างความไว้วางใจและมอบคุณค่าให้กับลูกค้า 

3. นักการตลาดจำนวนมากขึ้นจะใช้ Visual Search และ AR/VR
การค้นหาด้วยภาพช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาผลิตภัณฑ์โดยใช้รูปภาพแทนข้อความ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ยากต่อการอธิบายเป็นคำพูดหรือสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์คืออะไร ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อาจถ่ายภาพเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งเพื่อค้นหาทางออนไลน์ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะถูกนำทางไปยังผลิตภัณฑ์ของตนบนเว็บไซต์อย่างถูกต้อง แบรนด์ต่างๆ ควรใส่รูปภาพคุณภาพสูงของผลิตภัณฑ์จากมุมต่างๆ ให้ข้อมูลเชิงอธิบายในแอตทริบิวต์ข้อความของรูปภาพ และใช้ข้อมูลเมตาเพื่อให้เครดิตรูปภาพเหล่านั้นเป็นแบรนด์ของตน สิ่งหลังมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้รูปภาพที่พบทางออนไลน์สำหรับการค้นหา

AR และ VR ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างสมจริงและโต้ตอบได้ คิดว่าแบรนด์ต่างๆ จะเริ่มใช้ AR เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าผลิตภัณฑ์จะดูเป็นอย่างไรในบ้านของพวกเขา เช่น Wayfair และ Ikea หรือบนร่างกายของพวกเขา เหมือนกับที่ Target ทำกับสตูดิโอ AR สำหรับการลองแต่งหน้า

4. แบรนด์จำนวนมากขึ้นจะใช้ Influencers และ Content เพื่อสร้างการเชื่อมต่อ
Influencers ในโซเชียลมีเดียและ Content เป็นองค์ประกอบสำคัญของแคมเปญการตลาดดิจิทัลมากมาย ในปี 2023 คาดว่าจะมีแบรนด์ต่างๆ เพิ่มขึ้นที่ต้องการสร้างความร่วมมือระยะยาวกับ Influencers และสร้างเนื้อหาที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ค่านิยม และกลุ่มผู้ชม

ในภาพรวมของเนื้อหาที่หนาแน่นในปัจจุบัน แบรนด์สามารถโดดเด่นด้วยการสร้างเนื้อหาที่เป็นของแท้และน่าจดจำ การผสมผสานระหว่างเนื้อหาต้นฉบับและเนื้อหาที่คัดสรรจากแหล่งอื่นๆ สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในขณะที่แสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณเชื่อมโยงและมีส่วนร่วมกับชุมชนขนาดใหญ่

5. นักการตลาดจะเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์การตลาดแบบบูรณาการ
ในอดีตนักการตลาดจำนวนมากเข้าหาการตลาดดิจิทัลในรูปแบบของกลยุทธ์และช่องทางที่แตกต่างกัน เช่น การตลาดผ่านอีเมล การตลาดบนโซเชียลมีเดีย และการโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนช่องทางและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น บวกกับความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณและประสบการณ์ของลูกค้า คิดว่าจะเห็นนักการตลาดจำนวนมากขึ้นที่ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบบูรณาการ
กลยุทธ์ดังกล่าวควรคำนึงถึงวิธีการต่างๆ ที่ลูกค้าโต้ตอบกับแบรนด์ และพิจารณากลยุทธ์และช่องทางที่เหมาะสมที่สุดเพื่อใช้ในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและสอดคล้องกันในทุกจุดสัมผัส อย่าลืมลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงแพลตฟอร์มการตลาด ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล

ที่มา :  www.forbes.com