MACO is Thailand

พวกเราส่วนใหญ่ทราบดีว่า Augmented Reality (AR) นั้นทำงานอย่างไรกับแว่นตา หรือสมาร์ทโฟน สำหรับการแท็กข้อมูลและการปรากฏภาพซ้อนขึ้นเหนือวัตถุเสมือนจริงและวัตถุของจริง โดยสามารถมองเห็นสิ่งของจริงและสิ่งของเสมือนจริงได้ในเวลาเดียวกันนั้นเอง

 

หลายแบรนด์สนใจที่จะใช้ AR เพื่อทำการตลาดในโลก Metaverse ตัวอย่างเช่น การแสดงภาพผลิตภัณฑ์ที่ใช้ AR สามารถมอบประสบการณ์การโฆษณาเชิงโต้ตอบที่เชื่อมต่อกับลูกค้าในระดับอารมณ์ ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ายังสามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้จากทุกที่ ทำให้รูปแบบการโฆษณานั้นไร้ขีดจำกัด โดยเทคโนโลยี AR นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในโลก metaverse และเป็นสิ่งจูงใจในการขับเคลื่อนทางการตลาดสู่คนส่วนมาก
 

โลก Metaverse สำหรับ VR และ AR ต่างก็มีองค์ประกอบที่แตกต่างจากในชีวิตจริงอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งยังมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามความชอบส่วนบุคคล หรือตามสิ่งที่เห็น VR มีแนวโน้มที่จะถูกเลือกใช้ในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสประสบการณ์กับโลกที่เคยถูกจำกัดไว้เพียงจินตนาการเท่านั้น เช่น การสำรวจปิรามิดอียิปต์แบบเสมือนจริง
 

อย่างไรก็ตาม VR อาจยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีเรื่องของความรู้สึกไม่สะดวกสบาย และการถูกตัดขาดจากสิ่งรอบตัวโดยสิ้นเชิง จากการใช้ชุดหูฟัง VR จะนำพาบุคคลเข้าสู่โลกที่พวกเขาเห็นและได้ยินแตกต่างจากความเป็นจริงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั้นพวกเขาไม่ได้ยินหรือเห็นสิ่งใดในบริเวณใกล้เคียงจริง
 

ในทางกลับกันแว่นตา AR ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็น (และยังคงเป็นส่วนหนึ่งของ) สิ่งรอบข้าง แทนที่จะตัดทิ้งทั้งหมด สัญญาณทางประสาทสัมผัสยังคงสอดคล้องกันเพื่อสร้างการรับรู้ทางโลก โดยผู้ใช้ AR ยังคงมีประสบการณ์บนโลก metaverse โดยที่ยังสามารถเห็นคนอื่นๆ ในห้องได้ เช่น รู้ตัวเมื่อมีคนเข้าใกล้พวกเขา
 

ปัจจุบัน หลายแบรนด์พบว่า metaverse ที่เรียกว่า Decentraland เป็นที่นิยมและมีประโยชน์มากกว่าสำหรับกิจกรรม การตลาด และการโฆษณา 
 

"สิ่งที่เรารู้อย่างแน่นอนคือผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงในการมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์บนโลก metaverse - จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับข้อมูลผลิตภัณฑ์แบบไดนามิกและมีคุณค่ามากขึ้นเป็นหนึ่งในความคาดหวังสูงสุดของผู้บริโภคสำหรับ metaverse" Hollerbach กล่าว “ในขณะที่ยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคตของ metaverse แบรนด์ที่จะชนะคือแบรนด์ที่เต็มใจที่จะลองใช้เทคโนโลยีในตอนนี้ เพื่อให้สามารถมอบประสบการณ์เชิงบวกในขณะที่ผู้บริโภคเริ่มเร่งรีบจะมีส่วนร่วมบนโลก metaverse ”
 

ทั้งนี้นักการตลาดจำเป็นต้องเข้าใจว่าแนวคิดของ metaverse ซึ่งเป็นเรื่องที่มากกว่าแค่โลกเสมือนจริง การเล่นเกม และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ นี้จะทำให้แบรนด์มีโอกาสใน metaverse ซึ่งเป็นโลกที่กว้างใหญ่มากยิ่งขึ้นและเป็นมากกว่า metaverse เช่น Horizon Worlds, Decentraland, Roblox หรือ Sandbox
 

ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของการใช้ AR คือการเปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิต เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่เช่น MojoLens คอนแทคเลนส์ที่มีฟังก์ชัน AR ในตัว หรือแว่นตา AR ของ Apple และแว่นตา Reality X ของ Argo กำลังนำแนวคิดของ AR ที่สวมใส่ได้อย่างมีสไตล์มาสู่ผู้คนจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ในบ้านของเรา เราสามารถสร้างงานศิลปะเสมือนจริงที่ลอยอยู่บนเพดาน เป็นภาพเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่อง โดยคนที่มีแว่นตา AR จะสามารถมองเห็นและโต้ตอบได้อย่างราบรื่น
 

สำหรับนักการตลาดและผู้ลงโฆษณา สถานการณ์ประเภทนี้นำเสนอโอกาสในการโต้ตอบกับผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าและลูกค้าปัจจุบัน หลายแบรนด์ใช้ความเป็นจริงเสริมเพื่อเพิ่มศักยภาพของแผนการตลาด โดยส่วนมากสามารถทำผ่านแอพมือถือผสมผสานด้วย AR เช่น ModiFace Virtual Makeover ของ Amazon ซึ่งช่วยให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าลองแต่งหน้าและทรงผมบนใบหน้าของตนเอง การใช้ AR ที่ได้รับความนิยมอีกอย่างหนึ่งคือ IKEA ซึ่ง IKEA Place ช่วยให้ลูกค้าเห็นชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของตนเอง
 

Lyron Bentovim ประธานและซีอีโอของ The Glimpse Group แพลตฟอร์มผู้ให้บริการ VR & AR กล่าวว่า "AR จะมีบทบาทสำคัญในการตลาดใน metaverse ในรูปแบบต่างๆ และมีหลายวิธีที่มันถูกใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน" เขากล่าวต่อว่า “ผู้บริโภคได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าพวกเขาชอบช้อปปิ้งออนไลน์มากกว่าตัวต่อตัว แต่มีองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดหายไปจากการช้อปปิ้งออนไลน์ นั่นคือการทดลองและโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะซื้อ ซึ่งใน Metaverse นั้น AR จะช่วยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะซื้อ นี้สามารถสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้ซื้อและผลิตภัณฑ์"
 

จะเห็นได้ว่าพื้นที่ค้าปลีกบน metaverse ทำให้นักช็อปออนไลน์สามารถใช้ฟังก์ชั่นการทดลองเสมือนจริง เพื่อจำลองว่าพวกเขาจะสวมหมวก รองเท้า นาฬิกา และเสื้อผ้าได้อย่างไร โดยไม่ต้องไปที่ร้าน โดยคุณ Bentovim กล่าวว่า “สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าได้ด้วยความมั่นใจ นำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้าที่มากขึ้น และทำให้เกิดการขอคืนสินค้าน้อยลงมาก หลักการเดียวกันนี้ยังสามารถนำไปใช้กับเฟอร์นิเจอร์ การทดสอบเพื่อดูว่าจะเข้ากับห้องนั่งเล่นของคุณหรือไม่และผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ได้อีกมากมาย”
 

เทคโนโลยี AR สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามองโลกรอบตัวเราได้อย่างสิ้นเชิง ศักยภาพสูงสุดของ AR นั้นน่าทึ่งเป็นอย่างมากและเมื่อรวมกับ metaverse จะสามารถมอบทางการตลาดได้อย่างไร้ขีดจำกัด