Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

การคาดการณ์อีก 5 ปี Metaverse จะส่งผลต่อธุรกิจอย่างไร?

A photo of two people wearing VR headsets against a blue background

การเพิ่มขึ้นของบล็อคเชน สินทรัพย์ดิจิทัล และโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ (NFTs) ทำให้ความต้องการ Metaverse นั้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่เสมือนจริงที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้ และ Metaverse กำลังพัฒนาไปสู่ระบบนิเวศที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งประกอบด้วย Gateway Metaverse แพลตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐานตลอดจนผู้ให้บริการที่หลากหลายเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า

เมื่อเข้าสู่ปี 2022 และปีต่อๆ ไป นี่คือภาพสะท้อนที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของ Metaverse ในโลกความเป็นจริง และในอีก 5 ปีข้างหน้าสำหรับภาคส่วนต่างๆ เช่น การบริการด้านการเงิน ยานยนต์และการผลิต อสังหาริมทรัพย์ การศึกษา และการค้าปลีก

บริการทางการเงิน
หาก Metaverse ถูกพัฒนาขึ้นเหมือนกับ NFT นี่อาจเป็นโอกาสในการเติบโตสำหรับผู้ให้บริการด้านการเงิน เพราะยอดขาย NFT เพียงอย่างเดียวก็มีมูลค่ามากถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกปี 2021 และเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 เท่าจากไตรมาสก่อนหน้านี้

เมื่อมองไปอีก 5 ปีข้างหน้า เราจะจินตนาการถึงสถานที่ ที่มีระบบนิเวศซึ่งสร้างขึ้นโดย Metaverse นั่นก่อให้เกิดสังคมเสมือนจริงที่ทำธุรกรรม การมีส่วนร่วมในลักษณะการกระจายอำนาจ และนี่คือสิ่งที่คาดว่าจะได้เห็นใน เร็วๆ นี้
 
- การพัฒนาระบบการไถ่ถอนเสมือนจริงสู่ทางกายภาพ และระบบการเงินที่สนับสนุนการชำระเงินและการจัดหาเงินทุนในระบบนิเวศ Metaverse
- NFTs ให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของดิจิทัล และผลักดันให้เกิดการเข้าถึงคลาสใหม่สำหรับการซื้อขาย
- ความซับซ้อนของเทคโนโลยี AR/VR จะช่วยลดความแตกต่างระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมและความผูกพันในบริการทางการเงินที่มากขึ้น เพื่อช่วยให้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิมมาบรรจบกับนวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

ในทวีปเอเชียผู้ใช้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิมต่างพึ่งพาศักยภาพของ Metaverse กันแล้ว โดยธนาคารกำลังสร้างพื้นที่เสมือนจริงสำหรับการสร้างแบรนด์ การศึกษา และการพัฒนาผลิตภัณฑ์

ยานยนต์และการผลิต
การสร้าง Metaverse ทางอุตสาหกรรมนั้นเป็นไปได้หากรวมระบบไซเบอร์-กายภาพ หรือ Cyber-Physical Systems (CPS) เข้าด้วยกัน ซึ่งใช้ฝาแฝดดิจิตอล คอมพิวเตอร์วิทัศน์ AR, VR และ AI ที่ขับเคลื่อนด้วย 5G รีโมตคอนโทรล ความหน่วงต่ำและแอปพลิเคชั่นอื่นๆ

ทั้งนี้ในอนาคต Metaverse ของโรงงานอุตสาหกรรมจะไม่เพียงใช้ AR/VR สำหรับการติดตั้งเสริมในสถานที่หรือการฝึกอบรมทักษะเท่านั้น แต่จะสร้างประสบการณ์เสมือนจริงของผู้คนที่ทำงานร่วมกันในโลกเสมือนจริง โดย AI จะตรวจสอบผลลัพธ์และแก้ไขข้อผิดพลาดแบบเรียลไทม์โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ไซต์

นอกจากนี้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ กระบวนการพัฒนา การทดสอบ การผลิตทดลอง การจัดการการปฏิบัติงาน การตลาด และการดำเนินงานอื่นๆ ของบริษัท สามารถจำลองและตรวจสอบภายในแบบเสมือนจริงก่อนที่จะถ่ายโอนไปยังโลกจริงได้

พูดง่ายๆ ก็คือ Metaverse จะใช้ประโยชน์จาก VR และ AR ในรถยนต์ โดยซ้อนทับกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ เช่น ห้องนักบินอัจฉริยะ การจดจำเสียง และ AI

ในอีกห้าปีข้างหน้า คาดว่า Metaverse และรถยนต์จะพัฒนาควบคู่ไปด้วยกัน นอกเหนือจากกลไกขับเคลื่อนเสมือนจริงแล้ว เทคโนโลยีที่รับรู้ได้มากขึ้น เช่น การสัมผัสและรสชาติ อาจถูกรวมเข้าด้วยกัน และอาจถึงขั้นพัฒนาวิธีการทำธุรกรรมที่ไม่เหมือนใครผ่านบล็อกเชนใน Metaverse ได้อีกด้วย

อสังหาริมทรัพย์
ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินที่สำคัญในโลกความเป็นจริง ซึ่งนั่นอาจทำให้เกิดคำถามถึงคุณค่าของมันในโลกของMetaverse

มีการคาดว่า Metaverse จะนำเอาลักษณะของโลกแห่งความเป็นจริงมาใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานที่จะส่งผลต่อมูลค่าและราคาของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกับในโลกความเป็นจริง ซึ่งมักจะให้ความสำคัญกับตำแหน่งที่อยู่ ที่ส่งผลต่อมูลค่าที่ดินใน Metaverse โดยมีปัจจัยสองประการที่ คือระยะห่างจากศูนย์กลางของ Metaverse และคุณภาพของเพื่อนบ้าน

การศึกษา
ประสบการณ์การศึกษาทางไกลได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างมากด้วยฝาแฝดดิจิทัล โดยคาดว่า Metaverse จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และในอีกห้าปีข้างหน้าการหาความรู้จะไม่ถูกจำกัดอยู่แค่คำพูด รูปภาพ และการบรรยายอีกต่อไป แต่จะเน้นไปที่จินตนาการใหม่ๆ เพื่อรวมประสบการณ์ที่ดื่มด่ำไปกับดิจิทัลใน Metaverse

การศึกษาในยุค Metaverse ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นจริง เรามองว่า Metaverse เป็นสนามเด็กเล่นสถานที่ทดลองตามธรรมชาติสำหรับการศึกษา ผ่านการทำงานร่วมกันและการจัดตั้งกรอบมาตรฐานเพื่อสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ใช้ร่วมกัน

Metaverse ตระหนักถึงการแบ่งปันทรัพยากร การศึกษาคุณภาพสูงในระดับโลกที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชมที่หลากหลายทุกเพศทุกวัยและทุกชนชั้นทางสังคม

แบรนด์ค้าปลีกและผู้บริโภค
ในยุคของการบริโภคผ่านดิจิทัล แบรนด์ต่างๆ ยังคงพัฒนาแนวทางในการสร้างช่องทางการสื่อสารโดยตรงกับผู้บริโภค ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการสร้างเว็บไซต์ ไปจนถึงการเปิดรับอีคอมเมิร์ซ การเปิดบัญชีโซเชียลมีเดีย และแม้แต่การถ่ายทอดสด Metaverse ได้นำเสนอแนวคิดใหม่สำหรับแบรนด์ต่างๆ ให้ผู้บริโภคทดลอง

ความแพร่หลายและความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของตัวละครหรืออวาตาร์เสมือนจริงได้นำเสนอโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายในภาคการค้าปลีก ปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมากคาดหวังที่จะผสมผสานระหว่างประสบการณ์ในร้านค้าและประสบการณ์ดิจิทัล และ Metaverse เสนอความสามารถในการมีส่วนร่วมกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์โดยใช้อวาตาร์ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการลองเสื้อผ้าสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน รถทดลองขับ หรือการยกระดับประสบการณ์การท่องเว็บในร้านค้าเสมือนจริง และความเป็นไปได้ก็ไม่มีที่สิ้นสุด

ยกตัวอย่างเกมจำลองการใช้ชีวิตที่รู้จักกันดีอย่าง The Sims 4 ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Metaverse ว่าแบรนด์กำลังร่วมมือกับนักพัฒนาเกมเพื่อฝังผลิตภัณฑ์ของตนในเกม ตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 2014 โดยแบรนด์ได้เปิดตัวชุดเสริมสำหรับเกมเมอร์เพื่อโต้ตอบกับแบรนด์ในโลกเสมือนจริงเพื่อเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และปลูกฝังความรักในแบรนด์อีกด้วย

นอกจากนี้การตลาดของแบรนด์ต่างๆ ยังจัดกิจกรรมหรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเชิงโต้ตอบกับผู้บริโภคใน Metaverse โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์แฟชั่นสุดหรู โดยบางแบรนด์เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ในโลกเสมือนจริง และบางแบรนด์ก็ร่วมมือกับนักพัฒนาเพื่อสร้างเกมที่ออกแบบมาเองโดยเฉพาะ

ในอนาคตอันใกล้นี้ เราคาดว่าจะมีแบรนด์จำนวนมากขึ้นที่ก้าวเข้ามาเพื่อทำลายขอบเขตระหว่างระบบเสมือนจริงและความเป็นจริงเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมีความหมายกับผู้บริโภคมากขึ้น
 
ที่มา : https://www.brinknews.com