MACO is Thailand

ผู้นำในอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้าน กล่าวว่า กลยุทธ์ต่างๆ เช่น location-based data หรือ เทคโนโลยีการใช้ข้อมูลตามสถานที่ตั้ง ความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของสื่อนอกบ้านแบบดิจิทัล รวมทั้งกลยุทธ์ geofencing ที่สามารถเชื่อมต่อสื่อโฆษณานอกบ้านสู่ออนไลน์ได้ กลยุทธ์เหล่านี้คือเส้นทางที่จะนำผู้บริโภคไปสู่การซื้อในที่สุด
 
ปัจจุบันการตลาดมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูความสูญเสียที่ได้รับจากปีที่แล้ว และการเพิ่มความคล่องตัวให้สูงขึ้น ดังนั้นการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่คล่องตัวจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริโภคมีการพัฒนารูปแบบการซื้อของพวกเขาเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลที่แบรนด์ต่างๆจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการซื้อที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อปลูกฝัง call-to-action พร้อมทั้งกระตุ้นการตัดสินใจ ให้แบรนด์สามารถอยู่รอดในสภาพแวดล้อมของตลาดรูปแบบใหม่นี้

สื่อโฆษณานอกบ้าน หรือ Out of Home media (OOH) เป็นสื่อที่โชว์อยู่ในทุกจุดซื้อหลักๆ ของผู้บริโภคและด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสื่อ Digital out of home media (DOOH) ยังสามารถติดตามรูปแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อีกด้วย

ผู้นำในอุตสาหกรรมได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกที่ทางบริษัทสื่อโฆษณานอกบ้านได้ทำการรวบรวมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและวิธีที่แบรนด์ต่างๆสามารถขยายหรือปรับปรุงแคมเปญให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของตลาดใหม่ได้

ข้อมูลตามตำแหน่ง
Jayesh Yagnik CEO บริษัท MOMS Outdoor Media Solutions กล่าวว่า “location-based data หรือ เทคโนโลยีการใช้ข้อมูลตามสถานที่ตั้งมีความสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่การเคลื่อนย้ายมีความไม่แน่นอน เมื่อเราดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มเป้าหมายและสื่อแล้ว เราจะพิจารณาถึงจุดติดต่อที่สำคัญซึ่งเป็นพื้นฐานในการจำแนกประเภทผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันเรามีบริการที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในสถานที่ตั้งนั้นๆ ในระดับที่ฉาญฉลาด พร้อมกับความถี่ในการแสดงผล ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ OOH สามารถวัดผลได้ นอกจากนี้ OOH ในปัจจุบันยังเป็นมากกว่าสื่อคงที่แบบเดิมๆ ข้อมูลสถานที่ตั้งมีความสำคัญอย่างมากเมื่อเราวางแผนกิจกรรมและนวัตกรรมเชิงประสบการณ์ เนื่องจากช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมชมและการมีส่วนร่วมที่สูงขึ้น”

Gulab Patil ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Lemma กล่าวว่า “สถานที่ตั้งและข้อมูลตามบริบททำให้โฆษณาสื่อนอกบ้านสามารถเข้าถึงผู้รับชมได้ด้วยการผสมผสานสภาพแวดล้อมของผู้ชมกับการโฆษณาแบบไดนามิกที่เกี่ยวข้องตามบริบทซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อผู้บริโภค และจากการศึกษาพบว่าเมื่อสื่อโฆษณาทำงานร่วมกับเนื้อหาและบริบทที่มีความสอดคล้องกันอย่างมีกลยุทธ์จะช่วยส่งผลต่อการตอบสนองของการรับรู้ทางสมองที่สูงขึ้นถึง 32%

Localization หรือ บริบทที่สอดคล้องกับท้องถิ่นถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสื่อโฆษณานอกบ้าน โดยแบรนด์ต่างๆ ใช้บริบทสถานการณ์และเนื้อหาที่สอดคล้องกับสื่อนอกบ้านเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงานครีเอทีฟโฆษณามานานแล้ว ขณะนี้นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่หลากหลายเพื่อสร้างบริบทให้กับสื่อ OOH ได้ ซึ่งมีข้อมูลสถานที่ตั้งและข้อมูลอื่นๆ เช่น สภาพอากาศ บริบทสังคม การเดินทาง และข่าวสาร รวมถึงข้อมูลของแบรนด์ ที่รวมถึง ราคา สต็อก และร้านค้าปลีก ด้วยข้อมูลเหล่านี้ทำให้แบรนด์สามารถใช้ประโยชน์จากบริบทต่างๆ ได้อย่างไดนามิกที่อาศัยการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับท้องถิ่นตลอดเส้นทางการเดินทางของลูกค้าได้

Upinder Singh ผู้อำนวยการโครงการ Edge1 OOH Software กล่าวว่า “จากผลการศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการโฆษณาในสภาพแวดล้อมที่มีความเหมาะสมสามารถสร้างการจดจำโฆษณาได้ดีขึ้นถึง +19.2% และสร้างการรับรู้ได้มากขึ้นถึง +10.5% และ สร้างความเข้าใจในแบรนด์สูงขึ้น +9.7% จะเห็นได้ว่า OOH มีข้อดีหลากหลายประการ ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงในวงกว้าง การสร้างอิมแพ็ค และความสามารถในการรวมความสร้างสรรค์กับบริบทที่เป็นท้องถิ่นเข้าด้วยกันได้อย่างมีศักยภาพ ซึ่งทำให้ OOH เป็นสื่อที่แข็งแกร่งสำหรับการสร้างแบรนด์ในระยะยาว

การได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Digital out of home media (DOOH)
Yagnik แสดงความคิดเห็นว่า “การเร่งกระบวนการสู่ดิจิทัลของสื่อโฆษณานอกบ้าน หรือ OOH เนื่องจากดิจิทัลกลายเป็นความต้องการของชั่วโมงนี้ ซึ่งสื่อโฆษณาแบบดิจิทัลนอกบ้าน หรือ DOOH ขณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในทุกจุดหมายปลายทางและด้วยการเชื่อมต่อของสื่อที่เพิ่มขึ้น

Patil กล่าวว่า “DOOH สามารถตั้งเวลาโฆษณาโดยอัตโนมัติซึ่งนี้เป็นข้อได้เปรียบเริ่มต้น อย่างไรก็ตามคิดว่าสิ่งที่เป็นตัวเปลี่ยนเกมคือเรื่องของข้อมูล ผนวกกับการตั้งเวลาโฆษณา และนี้คือสิ่งสำคัญที่ช่วยยกระดับความอิมแพ็คของสื่อโฆษณานอกบ้านแบบดิจิทัล ซึ่งหมายถึง DOOH ควรเป็นแบบเรียลไทม์และมีความไดนามิก และที่สำคัญที่สุดคือต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งขณะนี้สามารถทำได้โดยใช้เทคโนโลยีแบบเป็นโปรแกรมใน DOOH การตั้งเวลาโฆษณาที่ซิงค์ข้อมูลเป็นทั้งนวัตกรรมและการกำหนดเป้าหมายให้แบรนด์ได้รับประโยชน์เพิ่มในการแสดงผลโฆษณาในช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด”

การวิจัยครั้งแล้วครั้งเล่าแสดงให้เห็นว่าครีเอทีฟโฆษณาตามบริบทที่เกี่ยวข้องได้สร้างความอิมแพ็คกับผู้ชม ซึ่ง Digital OOH ช่วยให้เรามีโอกาสที่ดีในการส่งข้อความตามบริบทถึงบ้านผู้บริโภค ปัจจุบัน DOOH ยังช่วยให้แบรนด์ต่างๆสามารถใช้เทคนิคที่เรียกว่า "การออกอากาศแบบกำหนดเป้าหมาย" เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มโดยใช้ความสามารถแบบไดนามิกของสื่อเพื่อปรับข้อความและโฆษณาแบบเรียลไทม์

ซึ่งเป็นการเน้นย้ำความจริงที่ว่า เราทุกคนอาจกำลังพูดถึงเรื่องนี้ แต่เมื่อพูดถึงการควบคุมพลังของข้อมูลในสภาพแวดล้อม ของ DOOH ซึ่งตัวอย่างที่ดียังคงค่อนข้างเบา และแคมเปญส่วนใหญ่ยังคงเป็นมิติเดียวมีเพียงไม่กี่แคมเปญที่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของแบรนด์หรือใช้ชุดข้อมูลที่แตกต่างกันเพื่อกำหนดเป้าหมายจุดติดต่อที่แตกต่างกันในระหว่างเส้นทางของลูกค้า ที่ซึ้งนี้คือช่องว่างสำหรับการเติบโต เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่แคมเปญประเภทนี้ยังคงเป็นส่วนน้อยโดยตัวเลขล่าสุดที่บ่งชี้ว่าแคมเปญแบบสื่อดิจิทัลนอกบ้านแบบไดนามิกนั้นมีน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของ DOOH ทั้งหมด ซึ่งสามารถทำอะไรได้อีกมากมาย”

Geo-fencing
Yagnik แบ่งปันมุมมองของเขาว่า “มีเทคโนโลยีต่างๆใน OOH เช่น การกำหนดเป้าหมายหลายมุมมอง และ Geo-Fencing  ซึ่งสามารถนำไปสู่การสร้างเครือข่ายที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้เราไม่เพียง แต่สามารถกำหนดเป้าหมายไปยังผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังสามารถกำหนดเป้าหมายใหม่อีกครั้งผ่านเส้นทางของผู้บริโภคและมอบประสบการณ์และการสื่อสารที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย"

Patil กล่าวว่า “Geo-Fencing เป็นแนวคิดถูกนำมาใช้อย่างละเอียดถี่ถ้วนในการโฆษณาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่กำหนดเป้าหมายผู้ใช้ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกันกับ DOOH ทำให้แบรนด์มีโอกาสที่จะเป็นผู้ใช้ที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อพวกเขาในการดำเนินการบางรูปแบบ เช่น การเยี่ยมชมร้านค้าหรือร้านอาหารเป็นต้น”

Singh พูดถึงความโดดเด่นของ Geo-Fencing  ว่า “การใช้ข้อมูลเชิงลึก Geo-Fencing  ควบคู่ไปกับข้อมูลพฤติกรรมและใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่จะช่วยขยายแคมเปญนอกบ้าน เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงแคมเปญโฆษณาได้มากขึ้น ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารประชาสัมพันธ์แคมเปญต่อได้โดยส่งข้อความโฆษณาบนมือถือไปยังกลุ่มเป้าหมายเมื่อพวกเขาอยู่ภายในขอบเขตพื้นที่กำหนดหรือใกล้เคียงกับตำแหน่งที่ตั้งของสื่อโฆษณานอกบ้าน โดยโฆษณาจะแสดงบนมือถือในขณะที่พวกเขากำลังใช้แอปที่รองรับโฆษณาหรือท่องเว็บบนโทรศัพท์” กล่าวโดยสรุปว่า Mobile + OOH = ROI ที่มีประสิทธิภาพ


ที่มา : https://www.exchange4media.com/out-of-home-news/how-ooh-can-help-brands-with-consumer-insights-in-todays-market-environment-111573.html