Where we are
Where we are
MACO is Thailand
leading creative and innovative out of home media solution provider.
เทรนด์สื่อโฆษณานอกบ้านในปี 2564
สำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของสื่อโฆษณากลางแจ้ง (OOH Advertising) นักโฆษณาจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี นอกเหนือจากการพัฒนาช่องทางการขาย (Marketplace), SEO Marketing รวมทั้งการทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียนั้น ความต้องการของคนดูนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์ต่างๆ เช่นกัน และนี้คือเทรนด์ของสื่อโฆษณานอกบ้านในปี 2564
1. การเพิ่มประสิทธิภาพ Digital Out of Home (DOOH)
แนวโน้มของ Digital Out of Home นั้นจะมีการพัฒนาไปพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่นโฆษณา videotron ที่เริ่มใช้เนื้อหาโฆษณาที่มีคุณภาพระดับ 4K ตามความต้องการของผู้ชมที่ต้องการรับชมภาพโฆษณาที่มีความละเอียดสูง ซึ่งการใช้จอแสดงผลที่มีคุณภาพสูงแบบ 4K สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นระยะเวลานานขึ้นมากขึ้น
เทคโนโลยีของสื่อโฆษณานอกบ้านแบบดิจิทัล (Digital Out of Home) ในปัจจุบันนั้นยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาพบว่าสื่อโฆษณาดิจิทัลกลางแจ้ง (DOOH) มีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้กับสื่อโฆษณากลางแจ้งทั่วโลกกว่า 30% โดยอาจกล่าวได้ว่านักโฆษณายังคงพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วย Digital Out of Home อยู่เสมอ นอกจากนี้ในปี 2564 จะเป็นปีที่ประสบความสำเร็จ หลังจากที่เผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเนื่องจากการระบาดในปี 2563 และล่าสุดยังมีการแบ่งประเภทของ DOOH ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Interactive DOOH และ Programmatic DOOH โดย Interactive DOOH คือการรวมสื่อโฆษณาเข้ากับผู้ชม ทำให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับแคมเปญโฆษณาได้เพื่อเป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์หรือบริการ ในขณะเดียวกันนั้น Programmatic DOOH คือโปรแกรมที่สามารถสร้างโอกาสในการสื่อสารมากขึ้น โดยใช้ข้อมูลเพื่อทริกเกอร์เนื้อหาบน DOOH
2. Brand Story Telling
Brand Story Telling วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะได้กำไรเท่านั้น แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์และสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ยังสามารถสร้างความภักดีของผู้บริโภคได้อีกด้วย เนื่องจากการสื่อสารของแบรนด์สามารถออกแบบให้สอดคล้องตามกลุ่มผู้บริโภค ตามที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าการเล่าเรื่องแบรนด์ในแคมเปญโฆษณากลางแจ้งนั้นจะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง รวมทั้งในปี 2564 กลยุทธ์บางอย่างที่สามารถนำไปใช้ได้โดยใช้การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในโฆษณากลางแจ้งนั้น จะกลายเป็นวิธีการเสนอชุดแคมเปญโฆษณา เพื่อให้ผู้ชมรอรับชมโฆษณาชุดต่อไป
3. Multi-Channel Integration
สำหรับในปี 2564 โฆษณากลางแจ้งจะถูกผสมผสานเข้ากับอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก ซึ่งการผสานรวมกันนี้มีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากสามารถทำให้มั่นใจได้ว่าสื่อโฆษณากลางแจ้งสามารถถ่ายทอดข้อความของแบรนด์ได้ดีในสื่อทุกประเภทอย่างเชื่อมโยงกันและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยสามารถตีความได้ว่าเนื้อหาของแบรนด์ในการโฆษณา OOH สามารถสอดคล้องกับการโฆษณาออนไลน์ที่นำผู้ชมไปสู่การขายแบรนด์ได้
อาจกล่าวได้ว่าเทรนด์เหล่านี้บางส่วนเป็นการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวของสื่อโฆษณากลางแจ้งไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของแบรนด์ในทักษะการเล่าเรื่องควบคู่ไปกับการแสดงเนื้อหา DOOH ที่สวยงามและมีความละเอียดสูง ผนวกกับการผสานรวมกับการโฆษณาออนไลน์ในสื่อต่างๆนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้โฆษณาต้องนำไปปฏิบัติ
ที่มา : https://lintasmediatama.com
1. การเพิ่มประสิทธิภาพ Digital Out of Home (DOOH)
แนวโน้มของ Digital Out of Home นั้นจะมีการพัฒนาไปพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่นโฆษณา videotron ที่เริ่มใช้เนื้อหาโฆษณาที่มีคุณภาพระดับ 4K ตามความต้องการของผู้ชมที่ต้องการรับชมภาพโฆษณาที่มีความละเอียดสูง ซึ่งการใช้จอแสดงผลที่มีคุณภาพสูงแบบ 4K สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นระยะเวลานานขึ้นมากขึ้น
เทคโนโลยีของสื่อโฆษณานอกบ้านแบบดิจิทัล (Digital Out of Home) ในปัจจุบันนั้นยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาพบว่าสื่อโฆษณาดิจิทัลกลางแจ้ง (DOOH) มีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้กับสื่อโฆษณากลางแจ้งทั่วโลกกว่า 30% โดยอาจกล่าวได้ว่านักโฆษณายังคงพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วย Digital Out of Home อยู่เสมอ นอกจากนี้ในปี 2564 จะเป็นปีที่ประสบความสำเร็จ หลังจากที่เผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเนื่องจากการระบาดในปี 2563 และล่าสุดยังมีการแบ่งประเภทของ DOOH ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Interactive DOOH และ Programmatic DOOH โดย Interactive DOOH คือการรวมสื่อโฆษณาเข้ากับผู้ชม ทำให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับแคมเปญโฆษณาได้เพื่อเป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์หรือบริการ ในขณะเดียวกันนั้น Programmatic DOOH คือโปรแกรมที่สามารถสร้างโอกาสในการสื่อสารมากขึ้น โดยใช้ข้อมูลเพื่อทริกเกอร์เนื้อหาบน DOOH
2. Brand Story Telling
Brand Story Telling วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะได้กำไรเท่านั้น แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์และสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ยังสามารถสร้างความภักดีของผู้บริโภคได้อีกด้วย เนื่องจากการสื่อสารของแบรนด์สามารถออกแบบให้สอดคล้องตามกลุ่มผู้บริโภค ตามที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าการเล่าเรื่องแบรนด์ในแคมเปญโฆษณากลางแจ้งนั้นจะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง รวมทั้งในปี 2564 กลยุทธ์บางอย่างที่สามารถนำไปใช้ได้โดยใช้การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในโฆษณากลางแจ้งนั้น จะกลายเป็นวิธีการเสนอชุดแคมเปญโฆษณา เพื่อให้ผู้ชมรอรับชมโฆษณาชุดต่อไป
3. Multi-Channel Integration
สำหรับในปี 2564 โฆษณากลางแจ้งจะถูกผสมผสานเข้ากับอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก ซึ่งการผสานรวมกันนี้มีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากสามารถทำให้มั่นใจได้ว่าสื่อโฆษณากลางแจ้งสามารถถ่ายทอดข้อความของแบรนด์ได้ดีในสื่อทุกประเภทอย่างเชื่อมโยงกันและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยสามารถตีความได้ว่าเนื้อหาของแบรนด์ในการโฆษณา OOH สามารถสอดคล้องกับการโฆษณาออนไลน์ที่นำผู้ชมไปสู่การขายแบรนด์ได้
อาจกล่าวได้ว่าเทรนด์เหล่านี้บางส่วนเป็นการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวของสื่อโฆษณากลางแจ้งไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของแบรนด์ในทักษะการเล่าเรื่องควบคู่ไปกับการแสดงเนื้อหา DOOH ที่สวยงามและมีความละเอียดสูง ผนวกกับการผสานรวมกับการโฆษณาออนไลน์ในสื่อต่างๆนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้โฆษณาต้องนำไปปฏิบัติ
ที่มา : https://lintasmediatama.com
×