Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

คาดการณ์ 8 เทรนด์โฆษณาปี 2020

เทรนด์โฆษณาที่จะกล่าวถึงในที่นี้

1. Video Advertising 
2. Personalized Advertising
3. Mobile First Advertising 
4. Display Advertising
5. Print Advertising
6. Social Advertising
7. Programmatic Advertising
8. Increase in Ad Spending
 

Video Advertising 

ดูเหมือนว่าวิดีโอจะเป็นเทรนด์โฆษณาสำคัญในอีก 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้วิดีโอยังสามารถเป็นเครื่องมือช่วยกระตุ้นการซื้อได้ดีให้แก่พนักงานขายทั้งหลาย การเปลี่ยนแปลงที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องบนระบบสมาร์โฟนส่งผลให้เกิดแคมเปญการตลาดหลายรูปแบบที่เข้าถึงได้น้อยลง เพราะจดหมายข่าวทางอีเมล โปสเตอร์ขายของ และอื่นๆ อ่านยากบนจอสมาร์ทโฟน นับแต่นั้นวิดีโอก็เป็นช่องทางที่ส่งสารข้ามแพลตฟอร์มที่มีความแตกต่างกันได้อย่างลงตัว และกลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด
 
นอกจากนี้ YouTube อาจเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่ใหญ่ที่สุด และสื่อโซเชียลยังเป็นทางเลือกที่ดีในการทำวิดีโอโฆษณาเช่นกัน นักโฆษณาใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลมหาศาลของเฟสบุค ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรมมาใช้ในแคมเปญวิดีโอโฆษณาของพวกเขา 
 
รวมถึง รูปแบบวิดีโอก็กำลังเปลี่ยนเช่นกัน เนื่องจากคนไม่ได้ดูวิดีโอจากคุณภาพไฟล์ แต่ดูที่เนื้อหา ซึ่งท้าทายแบรนด์ธุรกิจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นเหตุผลที่พวกเขายังมองหาเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของวิดีโอโฆษณาอยู่เสมอ 

เทรนด์วิดีโอโฆษณา

• โฆษณาสั้น ตั้งแต่ผู้บริโภคมีทางเลือกที่จะเลือกดูวิดีโอตัวไหนก็ได้ จึงเลือกดูแค่โฆษณาที่น่าสนใจหรือดึงความสนใจเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้วิดีโอโฆษณาสั้นลง กระชับ, เข้าประเด็น และกระชากความสนใจมากขึ้น 
• วิดีโอที่ซื้อได้เลย มันสามารถย่นระยะการเดินทางของผู้บริโภคได้ด้วยการมอบตัวเลือกในการซื้อสินค้าโดยตรงผ่านภาพหรือวิดีโอ ฟีเจอร์นี้ทำงานได้ดีเมื่อแสดงปุ่ม Popup ให้ผู้ใช้งานตรงไปยังหน้าสินค้าได้เลย
• วิดีโอ 1:1 แทนที่จะส่งอีเมล หรือ โทร นักการตลาดเลือกผลิตวิดีโอที่มีข้อความสื่อสารไปยังผู้บริโภคส่วนบุคคล เทรนด์นี้กำลังมาแรงและมีประสิทธิภาพตั้งแต่คุณภาพของสมาร์ทโฟนพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
• Live VDO วิดีโอถ่ายทอดสดได้รับความนิยมในหลายธุรกิจ ปกติแล้วใช้เพื่อแจกสินค้าทดลองหรือสัมภาษณ์ และยังใช้เพื่อเผยภาพเบื้องหลังหรืออื่นๆด้วย
• คัดลอกข้อความ การเผยแพร่ข้อความบรรยายวิดีโอบนเว็บไซต์พร้อมฝังวิดีโอดีต่อการเพิ่มอันดับการรับชม เนื้อหาสามารถเปลี่ยนเป็น Blog และแก้ไขได้

1. Personalized Advertising

นี่เป็นเทรนด์ที่เติบโตขึ้นทุกวัน ถ้าคุณทำงานในส่วนสนับสนุนลูกค้า เครื่องมือที่จะช่วยให้ตั้งรับกับลูกค้าได้คือซอฟแวร์บริหารจัดการประสบการณ์ลูกค้า ในขณะที่ผู้ตัดสินใจจะชอบเครื่องมือทั่วไปอย่างแอพลิเคชั่นข่าวกรองธุรกิจ
 
หลายแบรนด์ธุรกิจพยายามเข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อส่งโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริงผ่านอีเมลหรือการลงทะเบียนผ่านระบบข้อมูลผู้ใช้งาน ด้วยข้อมูลที่มีมากมาย นักการตลาดสามารถมอบข้อเสนอที่ดีกว่าให้กับลูกค้าได้และนำไปสู่การปิดการขาย   การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดไม่ได้จำกัดให้โฆษณาตัวเดียว สามารถโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายได้หลายแบบ เช่น วิดีโอ สื่อโซเชียล โทรทัศน์ ดิสเพลย์ และโปสเตอร์โฆษณา สิ่งเหล่านี้ทำให้นักการตลาดมีตัวเลือกมากขึ้นที่ทำให้มั่นใจได้ว่ากลุ่มเป้าหมายจะเห็นโฆษณาของพวกเขาแน่นอน
 
นอกจากนี้การยิงโฆษณาถูกเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เวลาที่ต่างกันให้ผลที่ต่างกัน ทฤษฏีนี้หมายรวมถึงการตลาดเชิงฐานข้อมูล ระบบค้นหาโฆษณา การติดตามสถานที่ และการแสดงกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ การตลาดเชิงฐานข้อมูลเกี่ยวเนื่องกับการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าที่เกี่ยวข้องและแปลงเป็นข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึก ระบบค้นหาโฆษณาใช้ค้นหาธุรกิจและนำไปสู่การจัดอันดับที่สูงขึ้นแบบออแกนิกส์จากผลลัพท์ที่ได้จากการติดตามผุ้บริโภคอย่างเรียลไทม์ 

กำหนดเป้าหมายในโฆษณามีประสิทธิภาพหรือไม่?

• 63% ของลูกค้ารู้สึกเบื่อเมื่อได้รับโฆษณาที่กระหน่ำเข้าหามากเกินไป
• 59% ของลูกค้าเชื่อว่าตัวเองมีบทบาทในการตัดสินใจขณะเลือกซื้อสินค้า
• 80% มักเลือกแบรนด์ที่ให้ประสบการณ์ส่วนบุคคลที่ดี
• ปี 2020 คาด 51% ของลูกค้าหวังว่าแบรนด์จะให้คำแนะนำกับพวกเขาก่อนที่การเจรจาจะเกิดขึ้น
• 90% คิดว่าเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลน่าสนใจน่าค้นหา
• อีเมลส่วนบุคคลทำได้ดีกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับการเข้าหาระยะประชิด
• 7% ของโฆษณาดิสเพลย์เป็นประโยชน์กับไดนามิกเนื้อหาและสื่อสารส่วนบุคคล

2. Mobile First Advertising 

ปีที่ผ่านมาเกินครึ่งของปริมาณการใช้งานบนออนไลน์ทั่วโลกมาจากระบบสมาร์ทโฟน ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้มือถือสำหรับช้อปปิ้ง ค้นหา และหาประสบการณ์ความบันเทิง เป็นผลให้แบรนด์ย้ายบริการ เว็บไซต์ และโฆษณามาบนระบบมือถือ ซึ่งส่งผลกระทบกับเทรนด์โฆษณาดิจิทัลในตลาดทั้งหมด ตัวอย่างเช่น วิดีโอส่วนใหญ่ถูกถ่ายและปรับตำแหน่งให้เป็นแนวตั้ง เพราะรูปแบบแนวตั้งทำให้การรับชมสมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจึงชอบค้นหาการมีส่วนร่วมบนอุปกรณ์ของพวกเขา
 
เรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้นบน Snapchat มีเยอะมาก และเป็นเทรนด์ใหญ่ในสื่อโซเชียลแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างเฟสบุค และอินสตาแกรม ขณะที่พวกเขาทำงานหน้าจอคอม ยังถูกทำการตลาดผ่านสมาร์ทโฟน นักโฆษณาตระหนักเทรนด์นี้และเริ่มเผยแพร่โฆษณาบน Story  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Story บนอินสตาแกรมเวิร์คมากสำหรับการสื่อสารแบรนด์ พิสูจน์ด้วยผลตอบรับ 33% มีการเข้าชม Story ในอินสตาแกรมและสร้างแบรนด์ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้โฆษณาโดยตรงบน Story ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
 
อัตราการใช้โฆษณาบนสมาร์ทโฟนที่นิยมอีกรูปแบบหนึ่งคือการโฆษณาผ่านเกม เกมมือถือมากมายสร้างขึ้นบนฟอร์แมตที่สามารถซื้อของบนโลกแห่งความจริงได้ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากการเล่นเกม ขณะที่การเข้าเล่นเกมโดยไม่ต้องเสียเงินผ่านการดูโฆษณาเป็นอีกช่องทางที่นิยม ช่วยให้แบรนด์โปรโมทแอพหรือเกมได้บนการแข่งขันสูง

ประโยชน์จากการตลาดบนมือถือ

• ผู้ใช้งานสามารถตอบกลับได้ทันที
• ไม่จำเป็นต้องมีเนื้อหาให้มีส่วนร่วมมาก
• ข้อมูลถูกสร้างขึ้นให้ติดตามได้ง่าย
• นำเสนอข้อมูลเรียลไทม์
• ผู้ชมทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย
• ทำธุรกรรมบนระบบชำระเงินผ่านมือถือได้ทันที
 

3. Display Advertising

2-3 ปีที่ผ่านมาเทรนด์โฆษณาดิสเพลย์มีนวัตกรรมที่น่าสนใจเข้ามาผสมผสาน สิ่งแรกคือยินยอมให้นักโฆษณากำหนดคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคได้ ต่อมาสามารถจับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานและความสนใจได้ จนกระทั่ง ทำการตลาดซ้ำได้คือการเข้าถึงผู้ใช้งานที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของแบรนด์มาก่อน ซึ่งมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผู้ใช้งานเหล่านี้อยู่แล้ว นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลนี้มาสร้างข้อความ/เนื้อหาสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงได้ เลือกแมทช์กับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย นำมาซึ่งผลกำไรในที่สุด
เทรนด์โฆษณาอื่นๆเติบโตภายใต้การโฆษณาดิสเพลย์ เช่น วิดีโอในแบนเนอร์ ซึ่งข้อมูลที่สนับสนุนพิสูจน์แล้วว่าการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจากวิดีโอในแบนเนอร์ เทียบกับการโฆษณาแบบดั้งเดิม สอดคล้องกับ Banner flow โฆษณาดิสเพลย์ที่ฝังวิดีโอบนสื่อของพวกเขาพบว่ามียอด CTR สูงถึง 18.4%
ขนาดโฆษณาดิสเพลย์ที่นิยมมากที่สุดในปี 2019

เทรนด์โฆษณาดิสเพลย์ 

• ไดนามิกโฆษณาดิสเพลย์ 
• วิดีโอบนแบนเนอร์
• โฆษณาดิสเพลย์บนมือถือ
• โฆษณาดิสเพลย์เฉพาะบุคคล
 

4. Print Advertising

โฆษณาสิ่งพิมพ์ยังไม่ตาย! มันค่อยๆปรับตัวเข้ากับนวัตกรรมในโลกดิจิทัล อย่างไรก็ตามคุณภาพของโฆษณาสิ่งพิมพ์เป็นสิ่งที่ทำให้มันมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และไม่เคยเปลี่ยนแปลง ลองจินตนาการว่า คุณอ่านข่าวการเสียชีวิตของดาราดังในหนังสือพิมพ์ สิ่งแรกที่รู้สึกคือความเศร้าและเห็นใจ แต่เมื่ออ่านข่าวนี้บนสื่อออนไลน์ ความคิดคุณจะเปลี่ยน “นี่มันเรื่องโกหกหรือเปล่านะ!” นี่คือความแตกต่างระหว่าง 2 ช่องทางที่ทำให้เทรนด์โฆษณาสิ่งพิมพ์ยังคงดำรงอยู่  การได้รับจดหมายจริงๆ น่าตื่นเต้นกว่า เพราะว่าอีเมลส่วนใหญ่จะถูกส่งเข้าถังขยะ สแปม และจดหมายแจ้งการติดตาม
 
ความสนใจด้านอื่นๆ ที่ทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ยิ่งใหญ่อยู่คือประสบการณ์ความชื่นชอบในผิวสัมผัสของมนุษย์ มันบ่งบอกว่าความชอบนี้เป็นจริงตั้งแต่ยุคดิจิทัลได้เริ่มขึ้น ความรู้สึกที่ได้สัมผัสบางอย่างให้ความรู้สึกสบายอย่างที่สื่อดิจิทัลทำไม่ได้ สิ่งพิมพ์ที่จับต้องได้เป็นหนทางการสร้างคอนเนคชั่นและความน่าเชื่อถือให้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

เทรนด์สื่อโฆษณาสิ่งพิมพ์ยอดนิยมปัจจุบัน

• การจัดวางเรื่องราวของผู้บริโภคหน้ากลาง
• เนื้อหาเฉพาะบุคคลผ่านการใช้ข้อมูลสมาชิก
• ความสร้างสรรค์ที่แตกต่างกันบนกระดาษแต่ละชนิด
• เล็กกว่า โฟกัสได้มากกว่า
 

5. Social Advertising

โฆษณาโซเชียลที่ใช้แพลตฟอร์มเฟสบุค ทวิตเตอร์ LinkedIn และแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ที่ได้รับจากการโฆษณาบนสื่อโซเชียล ได้แก่ จำนวนกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าถึงโฆษณา สร้างเครือข่ายด้วยการสร้างเพจแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ข้อดีข้อเสียของการตลาดสื่อโซเชียล 
• เพิ่มยอดขาย
• พัฒนาปรับปรุงอันดับการค้นหา
• เพิ่มปริมาณการเยี่ยมชมเว็บไซต์
• ปรับปรุงโอกาสทางการตลาด
• ตรวจสอบได้รายวัน
• เพิ่มโอกาสบนช่องทางออนไลน์ ดึงข้อมูล ผลตอบรับเชิงลบ และอื่นๆ
• บริหารจัดการความต้องการได้ต่อเนื่อง
• กลยุทธ์การตลาดชัดเจน
 

6. Programmatic Advertising

โฆษณาโปรแกรมเมติคถูกใช้ผ่าน AI ซึ่งเป็นระบบการซื้อโฆษราอัตโนมัต สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจงได้ กระบวนการเกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติหลายอย่าง ซึ่งรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับโฆษณาแบบดั้งเดิม หมายความว่าต้นทุนต่ำลง แต่ได้อัตราการมองเห็นมากขึ้น ปัจจัยหลักที่หลายบริษัทหันมาใช้โฆษณาผ่านระบบ AI ช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าถึงของผู้บริโภค ทีมงานโฆษณาจึงต้องทำงานหนักเพื่อออกแบบโฆษณาให้สมบูรณ์ แพลตฟอร์มโปรแกรมเมติคสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายเพื่อโฆษณาสู่ปัจเจกบุคคล
ความแตกต่างข้อใหญ่ระหว่างโปรแกรมเมติคกับโฆษณาดั้งเดิมคือการโฆษณาเรียลไทม์ ไม่ได้จำกัดว่าเข้าถึงแค่สื่อดิจิทัลเท่านั้น แต่สามารถใช้สำหรับการซื้อขายสื่อหลายรูปแบบได้เช่นเดียวกัน รวมถึงสื่อนอกบ้านและโฆษณาดิสเพลย์ด้วย โฆษณาโปรแกรมเมติคเป็นการผสมผสานข้อมูล ทักษะเชิงเทคนิค และระบบอัตโนมัติ วิธีการจึงไม่ได้เป็นระบบอัตโนมัติ 100% เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ โฆษณาโปรแกรมเมติคเป็นอีกเทรนด์ที่น่าจับตามอง
เทรนด์ปัจจุบันของโฆษณาโปรแกรมเมติค
• การกำหนดกลุ่มเป้าหมายในโฆษณาโปรแกรมเมติค
• โฆษณาผ่านเสียงกำลังมา
• บล็อคเชนกับประเด็นทุจริตและความโปร่งใส
• การเติบโตของโปรแกรมเมติคบนโทรทัศน์
• โปรแกรมเมติคในสื่ออื่นๆ และการเชื่อมต่อกับโทรทัศน์
 

7. งบโฆษณาเพิ่มขึ้น

งบโฆษณาวิดีโอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่พฤติกรรมผู้บริโภคใช้มือถือมากขึ้น หลายบริษัทใช้กลยุทธ์กดข้ามไม่ได้, 6 วินาที, โฆษณาแนวตั้งมาประยุกต์ใช้ในแคมเปญของพวกเขา ปรับปรุงโฆษณาและงบประมาณเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพของวิดีโอโฆษณา
 
สื่อโซเชียลและโซลูชั่นอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งสองช่องทางสนับสนุนไปในทิศทางเดียวกันคือเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายสูงสุด เช่น โพสต์กระตุ้นการซื้อขายบนอินสตาแกรม ช่วยให้ธุรกิจเชื่อมต่อกับร้านค้าได้โดยตรงบนสื่อโซเชียลด้วยปุ่มเลือกซื้อ
 
งบโฆษณาที่เติบโตวัดผลจากความสนใจบนแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง หมายความว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเพื่อโปรโมทแบรนด์ ขณะที่โฆษณาก็เพิ่มผลลัพธ์จากการลงทุน โดยเฉพาะเมื่อโฆษณาถูกทาง งบที่ลงทุนเพิ่มไปเป็นสัญญาณว่าการแข่งขันกำลังทวีความรุนแรงขึ้น ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่แนะนำให้ลงทุนบนแพลตฟอร์มเดียวในการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาด


สถิติงบโฆษณา

• ปี 2023 งบโฆษณาวิดีโอคาดพุ่งสูงถึง 102.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• ปี 2018 นักการตลาดใช้งบโฆษณาวิดีโอบนมือถือ 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• ปี 2019 นักโฆษณาในอเมริกาพยากรณ์การใช้งบโฆษณาโทรทัศน์ไว้ 3.8 พันล้าน
• ปี 2023 โฆษณาระบบติดตามสถานที่คาดว่าจะมีมูลค่าเติบโตเป็น 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• ปี 2018 งบโฆษณาบนมือถือทั่วโลก มูลค่า 138.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• ปี 2019 โฆษณาดิสเพลย์ในอเมริกาคาดพุ่งสูงถึง 46.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• ปี 2017 งบโฆษณาการตลาดสิ่งพิมพ์ทะลุ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• งบโฆษณาทั่วโลกปี 2019 คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีก่อนหน้า 4% 
 

เทรนด์การตลาดที่เปลี่ยนตลอดเวลา

นักการตลาดมีสายตาเสมือนเหยี่ยวเสมอในการพยายามทดลองสิ่งใหม่ เทรนด์โฆษณาไม่มั่นคงเสมอไป มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เมื่อมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเกิดขึ้นมา ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ นี่เป็นโอกาสดีที่จะลองและค้นหาแผนการตลาดที่เหมาะกับคุณ ถ้าคุณเป็นลูกค้า ต้องแน่ใจว่าโฆษณาที่คุณเห็นเป็นเรื่องจริง ไม่เสียเงินฟรี ถ้าคุณเป็นนักการตลาด คุณต้องมีจุดยืนเสมอ เพราะนี่คือความรับผิดชอบของคุณที่ต้องทันเทรนด์ตลอดเวลา