Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

การวัดผลสื่อโซเชียลมีเดียสู่ความสำเร็จของแคมเปญการตลาด

  ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อโซเชียลมีเดียในปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลก อัตราการเติบโตของบัญชีผู้ใช้ ระยะเวลาการใช้สื่อต่อวันไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง การเข้าถึงตัวผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย แทบจะกลายเป็นอีกอวัยวะสำคัญในร่างกาย นั่นทำให้นักการตลาดหันมาจับตามองและวางกลยุทธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียมากขึ้น เราไปดูกันว่าการวัดผลกลยุทธ์แต่ละแบบในสื่อโซเชียลมีเดียมีอะไรบ้าง
​ 
Impressions
  คือจำนวนครั้งที่โฆษณาของเราถูกแสดงผล โดย Impression ถือเป็น key Matric แรก ที่เราสามารถวัดผลได้ทันทีเมื่อโฆษณาถูกแสดงผลขึ้นตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือที่เรียกว่า Display ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว Impression จะนิยมใช้กับรูปแบบโฆษณาดังกล่าว เมื่อโฆษณาของเราถูกแสดงผล 1 ครั้งจะถูกนับเป็น 1 impressionทันที โดยที่การแสดงผลของโฆษณาในแต่ละครั้งต่อกลุ่มเป้าหมายของเรา 1 คน อาจจะมองเห็นโฆษณาของเราในหลายๆ ครั้งก็ได้ ซึ่งปกติผู้ลงโฆษณาจะจ่ายราคาที่ต้องการต่อการแสดงโฆษณา 1,000 ครั้ง หรือ Cost Per 1,000 impressions (CPM)

Reach
  มี 2 แบบคือ Organic reach และ Paid reach Organic reach คือ การที่คนเห็นโพสโดยไม่ได้ซื้อโฆษณา ส่วน Paid reach คือการเข้าถึงที่ต้องซื้อโฆษณาบูสโพส เช่น Organic reach เพจมีโอกาสได้รับการมองเห็นโพสต์ 2%-5% ถ้า เพจมีคนกดไลค์ 100 คน เวลาโพส โพสนั้นๆจะมีแค่ 2-5 คนเห็น ถ้าต้องการให้คนเห็นโพสต์มากขึ้นก็ต้องซื้อโฆษณาบูสโพสต์ (Paid Reach)
 
Clicks
  คือจำนวนครั้งที่ผู้เข้าชมคลิกลงบนโฆษณาของเราเพื่อมายังหน้าเว็บไซต์ (Landing Page) หลังจากที่โฆษณาถูกแสดงผลขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ลงโฆษณาสามารถวัดประสิทธิภาพของแคมเปญได้มากขึ้นว่า มีจำนวนคนที่สนใจแคมเปญ หรือ สินค้าของเราจริงๆ ในปริมาณเท่าใดจากการคลิกโฆษณา เพื่อเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ (Landing Page) 

CPC (Cost Per Click) 
  คือ การคิดค่าโฆษณาต่อการคลิกโฆษณา 1 ครั้ง โดยไม่สนใจว่าโฆษณาได้แสดงต่อผู้ชมไปแล้วกี่ครั้ง และจ่ายตามจำนวนการคลิกโฆษณาของเราเท่านั้น

CTR (Click-through rate)
คือ อัตราคนคลิก (ต่อจำนวนคนเห็นทั้งหมด) มาให้ดูหลังจากอธิบาย Frequency และ Relevant Score ไปแล้ว ก็เพราะ CTR ส่งผลตรงต่อ Frequency และ Relevant Score นั่นเอง หากคนสนใจโฆษณาเราเยอะ ก็มักจะมีการคลิกเยอะ และส่งผลให้ Metrics อีกสองตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

Engagement
  คือการที่ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมจนเกิดความผูกผันกับแบรนด์ แต่ถ้าพูดในบริบทของการทำโฆษณาบน Facebook แล้วคำว่า Engagement คือการกระทำทุกอย่างของกลุ่มเป้าหมาย (กลุ่มคนที่เห็นโฆษณา) ไม่ว่าจะเป็น (Like, Share, Comment) ที่เกิดขึ้นกับตัวโฆษณา
Engagement Rate เป็นการวัดผลตอบรับจากผู้ชมหรือแฟนเพจที่มีต่อเนื้อหา ใน Post ของคุณ โดยมีสูตรการคิด ดังนี้ 
Engagement rate = Total Engagement (Likes+Comment+Shares) / Total Fans

Video View
แต่ละโซเชียลมีเดียมีวิธีการนับ View ที่แตกต่างกันออกไป โดยสิ่งที่ Marketing Land เน้นก็คือตัว Facebook ซึ่งพยายามเหลือเกินที่จะทำตัวให้เป็น YouTube ให้ได้โดยการสำรวจของเว็บไซต์ข่าวนั้นเผยออกมาถึงตัวเลขที่น่าสนใจและดูแล้วมันเป็นเรื่องจิตวิทยาของคนที่จะทำวิดิโอและเลือกที่ที่จะลง
รายละเอียดของการนับแต่ละช่องทางมีดังนี้
• Facebook, Instagram จะนับก็ต่อเมื่อมีคนดูอย่างน้อย 3 วินาที 
• YouTube การจะนับ 1 View จะนับต่อเมื่อวิดีโอถูกชมไปมากกว่า 30 วินาที 
• Twitter จะนับเมื่อมีการคลิกเข้าไปดูวิดีโอภายในข้อความทวีต
 
  ความก้าวหน้าของสื่อหลายรูปแบบในปัจจุบัน ทำให้การผสมผสานสื่อเป็นสิ่งที่นักการตลาดมองหา หลายสื่อเริ่มถดถอย ในขณะที่สื่อโฆษณานอกบ้านได้รับความสนใจมากขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีเชื่อมต่อระหว่างสื่อนอกบ้าน สื่อออนไลน์ และกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลงตัว เพราะคนใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น เดินทางมากขึ้น สื่อที่อยู่รอบตัวได้ในทุกเส้นทางจึงหนีไม่พ้นสื่อนอกบ้านและสื่อออนไลน์นั่นเอง