Where we are
Where we are
MACO is Thailand
leading creative and innovative out of home media solution provider.
การระบาดของโรคได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของอนาคต
ผลกระทบของการแพร่ระบาดได้สอนเราว่า วิธีการทำงานแบบใหม่นั้นทั้งดีและเป็นไปได้ เรากำลังเรียนรู้ว่าความยืดหยุ่นในสถานที่ทำงานและการเพิ่มผลผลิตเป็นไปได้ และหลายคนยังพบว่างานของพวกเขามีความหมายมากขึ้นในช่วงที่มีการระบาดใหญ่
ในเดือนมีนาคมเราได้สอบถามพนักงานทั่วโลกกว่า 4,000 คนที่เปลี่ยนจากการทำงานด้วยตนเองไปทำงานระยะไกลในช่วงที่มีการระบาดอย่างหนัก ในขณะที่บริษัทและองค์กรต่างๆ เริ่มดำเนินการกลับไปทำงานพวกเขาจะต้องตระหนักถึงความความสำคัญของผู้คนที่เปลี่ยนไปในช่วงปีที่แล้ว บริษัทฯ หรือแบรนด์ต่างๆ มีโอกาสพิเศษในการรับฟังลูกค้าและพนักงานโดยตรงและต่อยอดจากสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ระหว่างการล็อกดาวน์
ความยืดหยุ่นคืออนาคต
ลดการเดินทาง การย้ายที่อยู่ แม้อยู่ห่างจากสำนักงานแต่ยังทำงานได้ ทำให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้นและพวกเขาไม่ต้องการเสียมันไปหลังจากการระบาดใหญ่สิ้นสุดลง- ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่ง (53%) คิดเห็นว่า อนาคตนโยบายการทำงานระยะไกล จะทำให้พวกเขาพิจารณาอยู่ที่องค์กรนานขึ้นและ 10% เห็นว่าพวกเขาอาจจะลาออกจากงานหากถูกบังคับให้กลับเข้าทำงานเต็มเวลา
ไม่ว่าพนักงานจะเลือกทำงานที่ใดองค์กรก็สามารถปรับปรุงพื้นที่ทำงานที่ให้ดีขึ้นได้โดยการเรียนรู้จากที่อื่น:
การระบาดของโรคได้ส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน บางคนรู้สึกว่าพวกเขาเข้าสู่ระบบเพื่อทำงานในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดและไม่ได้ออกจากระบบตั้งแต่นั้นมา แต่หลายคนก็เชื่อว่าผลผลิต วัตถุประสงค์ ความเป็นอยู่ และความรู้สึกของคนในองค์กรดีขึ้นที่ได้ทำงานระยะไกลเนื่องจาก COVID-19 ที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป
ผลผลิต:
วัตถุประสงค์และความเป็นอยู่:
ในขณะที่ 35% ของพนักงานกล่าวว่าพวกเขารู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานของพวกเขามากกว่าก่อนที่จะระบาด ตัวเลขนั้นเปลี่ยนแปลงไปสำหรับกลุ่มประชากรที่แตกต่างกัน:
เมื่อความท้าทายมาถึงเราเจ็บ เราล้มเหลว เราเรียนรู้ และเราเติบโต การแพร่ระบาดทำให้โลกมีโอกาสเปลี่ยนแปลงในทางที่ควรและกลับสู่สภาวะปกติเมื่อทำได้ บางคนเชื่อว่าอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก และร้านอาหารได้รับการปรับปรุงในช่วงปีที่แล้ว และหลายคนก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในยุคการระบาดของโรค ซึ่งรวมถึงที่นั่งกลางแจ้งที่ร้านอาหาร การไปรับของจากร้านขายของชำริมทาง และการซื้อของที่สั่งไว้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามนักธุรกิจตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้กลับมาโลดแล่นบนท้องถนนและในอากาศ
การระบาดของ COVID-19 มีมายาวนาน ทวีความรุนแรง แต่ก็สร้างโอกาสในการไตร่ตรองและทดลองในรูปแบบที่เราอาจไม่เคยเจอมาก่อน
องค์กรต่างๆ ทั่วโลกกำลังเขียนคู่มือของตนขึ้นมาใหม่และแม้ว่าจะไม่พอดีกับทั้งหมด แต่ก็สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นได้โดยการรับฟังพนักงานของตนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นดำเนินการกับข้อเสนอแนะที่ได้รับทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ที่มา : https://www.qualtrics.com/blog/how-pandemic-changed-future-of-work/
ในเดือนมีนาคมเราได้สอบถามพนักงานทั่วโลกกว่า 4,000 คนที่เปลี่ยนจากการทำงานด้วยตนเองไปทำงานระยะไกลในช่วงที่มีการระบาดอย่างหนัก ในขณะที่บริษัทและองค์กรต่างๆ เริ่มดำเนินการกลับไปทำงานพวกเขาจะต้องตระหนักถึงความความสำคัญของผู้คนที่เปลี่ยนไปในช่วงปีที่แล้ว บริษัทฯ หรือแบรนด์ต่างๆ มีโอกาสพิเศษในการรับฟังลูกค้าและพนักงานโดยตรงและต่อยอดจากสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ระหว่างการล็อกดาวน์
ความยืดหยุ่นคืออนาคต
ลดการเดินทาง การย้ายที่อยู่ แม้อยู่ห่างจากสำนักงานแต่ยังทำงานได้ ทำให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้นและพวกเขาไม่ต้องการเสียมันไปหลังจากการระบาดใหญ่สิ้นสุดลง- ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่ง (53%) คิดเห็นว่า อนาคตนโยบายการทำงานระยะไกล จะทำให้พวกเขาพิจารณาอยู่ที่องค์กรนานขึ้นและ 10% เห็นว่าพวกเขาอาจจะลาออกจากงานหากถูกบังคับให้กลับเข้าทำงานเต็มเวลา
- พนักงาน 80% ที่กำลังมองหางานใหม่กล่าวว่า สิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา คืองานต่อไปต้องทำให้พวกเขามีโอกาสได้ใช้ชีวิตในทุกที่
- คนรุ่นใหม่ดูเหมือนจะใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่มากขึ้น: 25% ของ Gen Z และMillennials 17% กล่าวว่าพวกเขาเคลื่อนไหวในช่วงที่มีการระบาดเมื่อเทียบกับ Gen X และ Baby Boomers น้อยกว่า 10% อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ไม่ต้องการทิ้งสำนักงานโดยสิ้นเชิง พนักงานและผู้นำหลายคนเชื่อว่าสำนักงานที่มีการจัดการแบบผสมผสานจะมีประสิทธิภาพดีกว่าสำนักงานที่ไม่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของพนักงาน
ในขณะที่พนักงานส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนไปทำงานระยะไกลกล่าวว่าพวกเขาชอบทำงานจากที่บ้านในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกแตกต่างไปเล็กน้อย นี่คือการกระทบเล็กน้อย:
แต่การตั้งค่าเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยขึ้นอยู่กับบทบาทของพนักงานในองค์กร:
ไม่ว่าพนักงานจะเลือกทำงานที่ใดองค์กรก็สามารถปรับปรุงพื้นที่ทำงานที่ให้ดีขึ้นได้โดยการเรียนรู้จากที่อื่น:
- ผู้ที่ทำงานในสำนักงานต้องการ: พื้นที่ทำงานที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น การประชุมและพื้นที่ทำงานร่วมกันที่ยืดหยุ่นมากขึ้นและพื้นที่ระหว่างโต๊ะทำงานมากขึ้น
- ผู้ที่ทำงานที่บ้านต้องการเมื่อจำเป็น: การเข้าถึงพื้นที่สำนักงาน ความสามารถในการพบปะกับเพื่อนร่วมงานด้วยตนเองและการเข้าถึงทรัพยากรทางกายภาพในสำนักงาน
การทำงานจากระยะไกลทำให้พวกเราส่วนใหญ่มีประสิทธิผลมากขึ้นการระบาดของโรคได้ส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน บางคนรู้สึกว่าพวกเขาเข้าสู่ระบบเพื่อทำงานในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดและไม่ได้ออกจากระบบตั้งแต่นั้นมา แต่หลายคนก็เชื่อว่าผลผลิต วัตถุประสงค์ ความเป็นอยู่ และความรู้สึกของคนในองค์กรดีขึ้นที่ได้ทำงานระยะไกลเนื่องจาก COVID-19 ที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป
ผลผลิต:
- 51% ของพนักงานเชื่อว่าพวกเขาทำงานจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้นในขณะที่ 15% เชื่อว่าพวกเขาทำงานได้น้อยลง (ส่วนที่เหลือไม่สังเกตเห็นความแตกต่าง)
- ผู้จัดการ 55% คิดว่ารายงานโดยตรงของพวกเขามีประสิทธิผลมากกว่าในขณะที่มีเพียง 16% เท่านั้นที่รายงานว่ามีประสิทธิผลน้อยลง
- ผู้จัดการ 55% คิดว่ารายงานโดยตรงของพวกเขามีประสิทธิผลมากกว่าในขณะที่มีเพียง 16% เท่านั้นที่รายงานว่ามีประสิทธิผลน้อยลง
- 54% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลและคน Gen Z 53% บอกว่าพวกเขามีประสิทธิผลมากขึ้นตั้งแต่ทำงานจากระยะไกลในขณะที่ Baby Boomers เพียง 34% เท่านั้นที่พูดเช่นเดียวกัน เหตุผลด้านบนสำหรับการผลิตที่ดีขึ้นเป็นตารางที่มีความยืดหยุ่น เวลาไม่มีการเดินทางทำให้ความสามารถในการมุ่งเน้นในการทำงานกับการหยุดชะงักน้อยลงและมีความเป็นส่วนตัวรวมไปถึงมีพื้นที่ส่วนบุคคลมากขึ้น
วัตถุประสงค์และความเป็นอยู่:
- พนักงานส่วนใหญ่ (53%) กล่าวว่าจุดประสงค์ขององค์กรของพวกเขา ตรงกับความต้องการของพวกเขามากกว่าที่เคยเป็น ก่อนการแพร่ระบาด
- พนักงานมีแนวโน้มที่จะบอกว่าความเป็นอยู่ส่วนบุคคลของพวกเขาดีขึ้นถึง 2 เท่านับตั้งแต่การแพร่ระบาดเริ่มขึ้นแทนที่จะบอกว่ามันลดลง
- Gen Z ปรับตัวให้เข้ากับโรคระบาดได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ โดยเกือบ 50% อ้างว่าความเป็นอยู่ส่วนบุคคลของพวกเขาดีขึ้นตั้งแต่ก่อน COVID
ในขณะที่ 35% ของพนักงานกล่าวว่าพวกเขารู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานของพวกเขามากกว่าก่อนที่จะระบาด ตัวเลขนั้นเปลี่ยนแปลงไปสำหรับกลุ่มประชากรที่แตกต่างกัน:
- ผู้ชายมีโอกาสมากกว่าผู้หญิงถึง 44% ที่จะรู้สึกเชื่อมโยงกันมากขึ้นตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด
- 43% ของคนงานผิวดำรู้สึกเชื่อมโยงกันมากขึ้นตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดเทียบกับ 27% ในกลุ่มคนงานผิวขาว
เราต้องการให้การเปลี่ยนแปลงบางอย่างยังคงอยู่ - และอื่นๆ ให้กลับสู่สภาวะปกติเมื่อความท้าทายมาถึงเราเจ็บ เราล้มเหลว เราเรียนรู้ และเราเติบโต การแพร่ระบาดทำให้โลกมีโอกาสเปลี่ยนแปลงในทางที่ควรและกลับสู่สภาวะปกติเมื่อทำได้ บางคนเชื่อว่าอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก และร้านอาหารได้รับการปรับปรุงในช่วงปีที่แล้ว และหลายคนก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในยุคการระบาดของโรค ซึ่งรวมถึงที่นั่งกลางแจ้งที่ร้านอาหาร การไปรับของจากร้านขายของชำริมทาง และการซื้อของที่สั่งไว้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามนักธุรกิจตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้กลับมาโลดแล่นบนท้องถนนและในอากาศ
การระบาดของ COVID-19 มีมายาวนาน ทวีความรุนแรง แต่ก็สร้างโอกาสในการไตร่ตรองและทดลองในรูปแบบที่เราอาจไม่เคยเจอมาก่อน
องค์กรต่างๆ ทั่วโลกกำลังเขียนคู่มือของตนขึ้นมาใหม่และแม้ว่าจะไม่พอดีกับทั้งหมด แต่ก็สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นได้โดยการรับฟังพนักงานของตนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นดำเนินการกับข้อเสนอแนะที่ได้รับทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ที่มา : https://www.qualtrics.com/blog/how-pandemic-changed-future-of-work/
30.04.2021
×
![]()