Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

8 ประเภทโฆษณากลางแจ้งที่มีประสิทธิภาพ

บริษัทต่างสนใจและให้ความสำคัญต่อบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น ในการมองหาพื้นที่ว่างสำหรับการโฆษณากลางแจ้ง นั่นเป็นเพราะสื่อโฆษณานอกบ้านยังคงมีประสิทธิภาพมากในปัจจุบัน Trailerad ระบุว่า 98% ของผู้คนทั่วโลกเห็นโฆษณาบิลบอร์ดกลางแจ้งอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ลูกค้าร้อยละ 68 บอกว่าการตัดสินใจซื้อของพวกเขาเสร็จสิ้นขณะที่พวกเขาอยู่ในรถ และรู้หรือไม่ว่ารายได้จากตลาดสื่อกลางแจ้งปี 2561 ในสหรัฐรวมกันเป็นแปดพันล้านดอลลาร์
 
นี่คือโฆษณากลางแจ้งประเภทต่าง ๆ ที่คุณต้องรู้:
 
1. โฆษณาบิลบอร์ด
 
 
ป้ายโฆษณาโปสเตอร์ขนาดยักษ์ที่แสดงในสถานที่ที่ได้รับความนิยม โปสเตอร์ยักษ์เหล่านี้มีรูปแบบการโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มคนได้เป็นจำนวนมาก ประมาณ 71% ของผู้บริโภคยอมรับว่าดูข้อความบนป้ายโฆษณาริมถนน นี่แสดงให้เห็นว่าการสร้างป้ายโฆษณาให้ประโยชน์ต่อยอดขายที่มากขึ้น ซึ่งป้ายโฆษณานั้นมีมากกว่าหนึ่งประเภท 
ประเภทของป้ายโฆษณา:: 
Static หรือ สื่อโฆษณาภาพนิ่ง :



ป้ายโฆษณากลางแจ้งรูปแบบนี้มีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่อยู่ในยานพาหนะ สำหรับช่วงเวลาที่รอระหว่างที่รถติด คุณจะได้สัมผัสกับรูปแบบของการโฆษณากลางแจ้ง ซึ่งผู้บริโภคราว 68% ตัดสินใจซื้อสินค้าขณะที่อยู่ในรถ การตลาดแบบนี้ไม่ได้นำเสนอแบบยัดเยียดหรือฮาร์ดเซล แต่จะมีความเป็นมิตรกับผู้บริโภคมากขึ้น
 
สื่อเคลื่อนที่ (Mobile) :  


อีกหนึ่งรูปแบบการโฆษณาที่พบเห็นได้ตามยานพาหนะ โดยป้ายโฆษณาจะติดตั้งบนยานพาหนะ ซึ่งกำลังได้รับความนิยม สามารถออกแบบให้สนุกสนานได้ รวมทั้งมีความคุ้มค่า สามารถดึงดูดสายตาผู้ที่กำลังขับรถได้ ด้วยลักษณะของรถที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจุดประสงค์ของป้ายโฆษณาแบบเคลื่อนที่คือการดึงดูดความสนใจของคุณ ในเวลาที่คุณคาดไม่ถึง ซึ่งสื่อเคลื่อนที่สามารถกำหนดเป้าหมายได้ โดยยานพาหนะนั้นถูกขับไปตามพื้นที่ต่าง ๆ หรือรอบผู้คนที่เป็นเป้าหมายนั้นเอง
 
ดิจิทัล :



ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือในนิวยอร์กซิตี้ - ไทม์สแควร์ ป้ายโฆษณาดิจิทัลแสดงโฆษณาหลายร้อยรายการที่แตกต่างกัน คือหนึ่งในรูปแบบการโฆษณากลางแจ้งที่มีประโยชน์ที่สุด 
 
ป้ายโฆษณาแบบ Interactive :


ในปัจจุบันนี้คอนเทนท์ที่สร้างให้เกิดการโต้ตอบร่วมกับสื่อโฆษณากลางแจ้ง สามารถทำให้แบรนด์เป็นผู้นำในตลาดได้ การให้ผู้บริโภคโต้ตอบกับโฆษณาบิลบอร์ดจะทำให้พวกเขาชื่นชมในความพยายามของแบรนด์มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการมองเห็นป้ายโฆษณา ความสามารถในการสร้างความมีส่วนร่วมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน 
 
Augmented Reality เทคโนโลยีสร้างโลกเสมือน: ยุคของเทคโนโลยีทำให้แบรนด์ต่างๆเปิดกว้างเรื่องความสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น Application DressingRoom ของ Gap ที่ออกแบบให้ลูกค้าสามารถลองสวมใส่เสื้อผ้าก่อนซื้อจริง ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับการโฆษณาป้ายโฆษณาดิจิทัล เป๊ปซี่ก็มีโฆษณาเรียลลิตี้เช่นกัน พวกเขาติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณที่กำบังรถบัสในลอนดอนให้ดูเหมือนกระจกปลอมและโปร่งใส ซึ่งมันสามารถสร้างความประหลาดใจให้กับผู้สัญจรผ่านไปผ่านมาได้ ที่ผู้พบเห็นต้องทำการผลักให้บางคนหลบป้ายนั้นๆ ซึ่งในนาทีสุดท้าย "หน้าต่างปลอม" นี้จะมีจานบิน หุ่นยนต์ปลาหมึกยักษ์และอื่น ๆ โผล่อออกมา การโฆษณา OOH นี้ใช้สำหรับแคมเปญ Pepsi Max สามารถดูโฆษณาได้ที่นี่
 
2. สื่อเสาไฟ :



แบนเนอร์เสาไฟมักสังเกตได้จากไฟถนนในเวลากลางคืน สไตล์แบนเนอร์นี้บังคับให้คนสนใจป้ายในเวลากลางคืน โดยปกติแล้วแบนเนอร์เสาไฟจะถูกวางอยู่บนถนนหรือที่จอดรถ แบนเนอร์โฆษณากลางแจ้งนี้จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงสายตาไม่ให้มองไปยังป้ายโฆษณานั้น
 
3. สื่อบริเวณสะพาน : 

 


สื่อที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายผู้สัญจรไปมาในชั่วโมงเร่งด่วน แบนเนอร์เหล่านี้ถูกติดตั้งอยู่บนสะพานเล็ก ๆ บนทางหลวง การโฆษณากลางแจ้งแบบนี้จะไม่เห็นบ่อยนักเว้นแต่คุณจะเดินทางขับรถบ่อยๆ หากคุณต้องการใช้เทคนิคนี้ คุณต้องให้ความสำคัญกับตำแหน่งและพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ไม่ใช่ถนนทางหลวงทุกเส้นจะมีสะพาน ดังนั้นควรเลือกสื่อโฆษณากลางแจ้งที่สามารถใช้งานได้บ่อยๆ
 
4. การโฆษณาแบบกองโจร หรือ Guerilla Advertising : 


 
วิธีการทางการตลาดที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างให้เกิดความประหลาดใจหรือสร้างความตกใจ ซึ่งการใช้เทคนิคนี้ คุณเพียงนำสิ่งที่มีอยู่มาแสดงในที่สาธารณะ ในสภาพแวดล้อมจริง แต่หากต้องระวัง เพราะมันอาจทำให้ดูเหมือนเป็นการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ การโฆษณากลางแจ้งรูปแบบนี้ประหยัดต้นทุนและเน้นความคิดสร้างสรรค์ของนักการตลาด รวมทั้งขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หากคุณต้องการทำตลาดด้วยการตลาดแบบกองโจร ถือเป็นอีกวิธีที่สนุกในการทำโฆษณา แต่มันอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคนเพราะมันเป็นวิธีการทำตลาดที่มีเนื้อหาที่ต้องอาศัยความครีเอทีฟอย่างมาก
 
5. สื่อแสดง ณ จุดขาย : 



ผลิตภัณฑ์ที่จะชักจูงให้ผู้ซื้อต้องการซื้อแบบในทันที สามารถสังเกตุได้จากผลิตภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บริเวณเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ที่เรียกได้ว่าเป็นมีประสิทธิภาพทำให้เกิดการซื้อในนาทีสุดท้ายก่อนออกจากร้านค้า และนี่คือหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ทำการตลาดน้อยที่สุด เพียงแค่ขออนุญาตจากร้านค้าเพื่อวางผลิตภัณฑ์บริเวณเครื่องคิดเงิน การแสดงจุดขายนั้น จำกัด เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้เท่านั้น ไม่สามารถเป็นผลิตภัณฑ์ที่มากเกินไปหรือใหญ่เกินไป เพราะต้องเรียบง่ายและน่าสนใจพอที่จะทำให้เกิดแรงกระตุ้นของนักช้อปที่ต้องซื้อ ถือเป็นวิธีที่อาศัยความละเอียดอ่อนในการทำเนื้อหาการตลาดแบบผลิตภัณฑ์
 
​6. การโฆษณาในระบบขนส่งสาธารณะ : 



ผู้โดยสาร, นักท่องเที่ยวและผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองมักใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ โดยในระยะเวลาการเดินทางทุกคนจะมีความเสี่ยงต่อเนื้อหาภายในรถนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถบัส หรือรถไฟ นี่คือโฆษณากลางแจ้งที่ได้รับความนิยมซึ่งมักพบเห็นบนรถไฟ โดยผู้บริโภคประมาณ 24% กล่าวว่าพวกเขาได้เยี่ยมชมแบรนด์นั้นๆ ภายหลังจากมองเห็นแบรนด์ผ่านสื่อโฆษณากลางแจ้ง ยิ่งไปกว่านั้นผู้โดยสารยังเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นจึงช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้า ในระหว่างทางกลับบ้านได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคประมาณ 38% มีแนวโน้มที่จะหยุดที่ร้านค้า ในระหว่างการเดินทางกลับบ้าน
 
7. การโฆษณาเพื่อการค้าปลีก :

 
เพื่อให้นักช้อปยังคงช้อป - ต้องทำการโฆษณามากขึ้น ไม่มีสถานที่ใดดีไปกว่าห้างสรรพสินค้าเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพราะผู้บริโภคมีความคิดที่จะซื้อสินค้าอยู่แล้ว ดังนั้นใช้ประโยชน์จาก บรรยากาศของศูนย์การค้า ที่เต็มไปด้วยสื่อทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ หากคุณต้องการทำตลาดเสื้อผ้า วัสดุที่ใช้ในบ้าน หรือรูปแบบอื่น ๆ ของผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค (ผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนซื้อบ่อยๆ) การโฆษณาค้าปลีกนั้นเหมาะสำหรับคุณ สื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้า เช่น โปสเตอร์หน้าร้าน การตกแต่งหน้าร้าน เป็นต้น 
 
8. Stunt Advertising :



สื่อที่ใช้โฆษณากลางแจ้งโดยอาศัยความพยายามของการเข้าไปมีส่วนร่วม และเกี่ยวข้องกับคนจริงๆ เพื่อสร้างให้เกิดอารมณ์ร่วม ตัวอย่างจาก Telenet ผู้ให้บริการเคเบิลและบรอดแบนด์ในเบลเยียม ณ ใจกลางถนนที่เงียบสงบพวกเขาวางปุ่มและลูกศรที่พูดว่า “Push to Add Drama” ไว้ เมื่อมีคนมากด สถานการณ์จากเมืองที่เงียบสงบก็เปลี่ยนเป็นฉากที่วุ่นวายทั้งหมด เช่น ทีมแพทย์, ผู้เล่นฟุตบอล, นักสืบ, ตำรวจ, การทะเลาะวิวาท, การชกมวย ทำให้ผู้คนเห็นการแสดงละครในทุกวัน ลองชมวิดีโอได้ที่นี่ 
 
Augmented Reality เทคโนโลยีสร้างโลกเสมือน: ยุคของเทคโนโลยีทำให้แบรนด์ต่างๆเปิดกว้างเรื่องความสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น Application DressingRoom ของ Gap ที่ออกแบบให้ลูกค้าสามารถลองสวมใส่เสื้อผ้าก่อนซื้อจริง ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับการโฆษณาป้ายโฆษณาดิจิทัล เป๊ปซี่ก็มีโฆษณาเรียลลิตี้เช่นกัน พวกเขาติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณที่กำบังรถบัสในลอนดอนให้ดูเหมือนกระจกปลอมและโปร่งใส ซึ่งมันสามารถสร้างความประหลาดใจให้กับผู้สัญจรผ่านไปผ่านมาได้ ที่ผู้พบเห็นต้องทำการผลักให้บางคนหลบป้ายนั้นๆ ซึ่งในนาทีสุดท้าย "หน้าต่างปลอม" นี้จะมีจานบิน หุ่นยนต์ปลาหมึกยักษ์และอื่น ๆ โผล่อออกมา การโฆษณา OOH นี้ใช้สำหรับแคมเปญ Pepsi Max สามารถดูโฆษณาได้ที่นี่

ที่มา : https://penji.co