MACO is Thailand

Digital Out of Home: หัวใจการทำการตลาดกับ Gen Z
โดย Ran Ben-Yair, CEO and Co-founder of Ubimo.

ภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ หลังจากที่ใช้เวลากว่าสองทศวรรษในการเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมการซื้อของกลุ่ม Millennials โดยต่อจากนี้พวกเขาเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วย Generation Z ที่ถือเป็นกลุ่มคนในยุคแรกๆของยุคดิจิตอลอย่างแท้จริง ทำให้สื่อดิจิทัลนอกบ้านกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในการค้นหาตำแหน่งและวิธีการที่เหมาะสมในการทำโฆษณาให้ดึงดูดใจคนกลุ่มนี้

ความแตกต่างของกลุ่ม Gen Z 

Gen Z คือกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 24 ปี คิดเป็น 40% ของผู้บริโภคชาวสหรัฐทั้งหมด ซึ่งมีกำลังซื้อคิดเป็นมูลค่า 44 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีและการใช้จ่ายของครอบครัวอีก 600 พันล้านดอลลาร์ต่อปี โดยกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มประชากรที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และยังเป็นกลุ่มที่มีความเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ง่ายเมื่อเทียบกับกลุ่ม Millennials

อีกทั้ง Gen Z เป็นกลุ่มที่ใช้อุปกรณ์แตกต่างกันห้าอย่างเป็นประจำ – ทีวี แล็ปท็อป เดสก์ท็อป ไอพอดหรือไอแพด และโทรศัพท์ แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับกลุ่ม Millennials ที่ใช้อุปกรณ์เฉลี่ยแล้วเพียงสามเครื่อง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อในการเรียงลำดับและประมวลผลด้านข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว จากข้อความจำนวนมากมากจากร้านค้าต่างๆ พวกเขาจึงต้องพัฒนาทักษะนี้ สิ่งนี้ยังส่งผลถึงการโฆษณากลางแจ้งด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในเขตเมืองที่เต็มไปด้วย OOH และ DOOH ซึ่ง Gen Z นั้นมีความรวดเร็วในการรับข่าวสารจากป้ายเหล่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของพวกเขา

ซึ่งสรุปแล้วเราพบว่า Gen Z นั้นมีความแตกต่างจาก Millennials เป็นอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจอย่างมากในการช็อปปิ้งที่ร้านค้ามากกว่าออนไลน์ จากแนวโน้มของนักช็อปชาว Gen Z ที่ช็อปปิ้งที่ศูนย์การค้า และยิ่งพวกเขาออกไปช้อปปิ้งมากเท่าไร ยิ่งทำให้พวกเขาเข้าถึงข่าวสารจากสื่อ OOH และ DOOH มากขึ้นเท่านั้น 
ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนแล้วว่า กลุ่มประชากรที่ทรงพลัง อีกทั้งยังมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลในระดับผู้เชี่ยวชาญ พวกเขาใช้เวลาอยู่กับการช้อปปิ้งในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นส่วนใหญ่ บนดินแดน ที่ OOH มีความสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็รู้วิธีตัดผ่านความยุ่งเหยิงและมุ่งเน้นเฉพาะข้อความที่พูดกับพวกเขาโดยตรงเท่านั้น

OOH และ Smart Location Intelligence ชนะใจ Gen Z ได้มากกว่า
ด้วยความชื่นชอบในการช็อปปิ้งในสถานที่จริง และเทรนด์ของ Gen Z อื่น ๆ เช่นแรงดึงดูดของแบรนด์ใหม่ความสนุกและแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับพวกเขาในแต่ละระดับ ทำให้นักการตลาดจำนวนมากกำลังหันมาใช้คุณสมบัติของ OOH เพื่อเข้าถึงคนกลุ่มนี้

นอกเหนือจากการมองเห็นข้อความเพิ่มขึ้น ป้าย DOOH ยังสว่างและสามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ป้าย DOOH สามารถนำเสนอลูกเล่นได้มากมายมากกว่าป้ายทั่วไป นอกจากนี้ยังช่วยสามารถใช้ลูกเล่นจากสภาพแวดล้อมในโลกแห่งความเป็นจริงมาใช้ในการออกแบบ เช่นสภาพอากาศหรือการจราจร ทำให้เกิดโฆษณาแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
แน่นอนว่าเมื่อคุณทำการตลาดไปยังกลุ่มประชากรที่มีลักษณะเฉพาะกลุ่มอย่าง Gen Z คุณต้องชาญฉลาดและแม่นยำนอกจากลูกเล่นอื่นถึงแม้พวกเขาอาจกำลังช็อปปิ้งในสถานที่จริงมากขึ้นแต่ก็ยังมีการใช้จ่ายบนอินเทอร์เน็ตเช่นกัน  ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเคยชินกับวิธีการที่เจาะจงและตรงเป้าหมายเป็นอย่างมาก
นี่คือที่มาของการหาตำแหน่งที่ตั้งอย่างชาญฉลาด เพียงแค่มีป้ายโฆษณาอยู่ในจุดที่คึกคักที่สุดในเมืองแม้แต่ป้ายโฆษณาของ DOOH ที่มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z เท่านั้น แต่แบรนด์กำลังมองหาข้อมูลผู้ชมที่ลึกซึ้งลงไปอีก 
การหาที่ตั้งอย่างชาญฉลาดทำให้การโฆษณาสมจริงมากขึ้นสำหรับ OOH และ DOOH ซึ่งเป็นตัวเชื่อมช่องว่างระหว่างโลกทางกายภาพและดิจิตอล แทนที่จะเสนอป้ายโฆษณาใกล้กับสวนสาธารณะยอดนิยม คุณสามารถเสนอการซื้อและการวางแผนแบบเลือกผู้ชมได้เช่นเดียวกับป้ายโฆษณาที่ดึงดูดผู้ชม Gen Z ที่เข้าชม Shake Shack และดัชนีมากกว่าที่ Adidas Stores ได้เช่นกัน

โลกใหม่ของ Gen Z 
Gen Z กำลังเปลี่ยนวิธีการทำงานของธุรกิจค้าปลีกโดยเปลี่ยนเป็นแกนหลัก แบรนด์และนักการตลาดที่ทันสมัยและคล่องตัวมีแนวโน้มกำลังปรับตัว พวกเขาไม่เพียงแต่เปลี่ยนเครื่องมือทางการตลาด แต่วิธีที่พวกเขาทำธุรกิจเพื่อจับภาพกลุ่มประชากรที่กำลังเกิดขึ้นนี้ และเพื่อที่จะรักษาพื้นที่ OOH จากคู่แข่ง คุณต้องเสนอข้อมูลที่สอดคล้องกับตำแหน่งที่พวกเขาต้องการเพื่อที่จะสามารถแข่งขันได้

ที่มา : ​billboardinsider.com