Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

เล่าเรื่องให้จับใจภายใน 6 วินาที

ในอดีตเรามักจะได้ชมโฆษณา 30 วินาทีจากสื่อโทรทัศน์ซึ่งในตอนนี้มันอาจจะล้าสมัยไปแล้วสำหรับยุคเทคโนโลยี เมื่อมือถือเข้ามาเปลี่ยนบทบาทของVDO โฆษณาให้ไปตามพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่หันมาใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้น 

แต่ก่อนคนจะต้องมานั่งดูรายการตามเวลาหน้าจอโทรทัศน์และถูกขัดจังหวะด้วยโฆษณา แต่ตอนนี้มียูทูบและเฟสบุ๊คที่มาพร้อมกับคอนเทนต์มากมาย (Content snacking) ที่ถูกผลิตออกมาตลอดทั้งวันทุกๆนาทีเลยก็ว่าได้ คนสามารถเสพคอนเทนต์ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะตอนเบรกสั้นๆ หรือสไลด์ดูจอมือถือในเวลาไม่กี่นาที หรือแม้เวลาประชุม
แล้วแบรนด์จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่านมือถือให้ประสบึวามสำเร็จได้อย่างไรในยุคที่มีคอนเทนต์มหาศาลเช่นนี้? มาดู 3 ปัจจัยแห่งความสำเร็จกัน:

เล่าเรื่องให้ได้ใน 6 วิหรือน้อยกว่านั้น

จากการศึกษาบัญชีเพจเฟสบุ๊ค 1,000 เพจ รวมกว่า 2,900 ล้านไลค์ 5,800 วิดีโอ และ 182 ล้านการมองเห็น พบความไม่แมทช์กันระหว่างความยาวของวิดีโอคอนเทนต์และยอดการเข้าชมจริง โดยค่าเฉลี่ยความยาวของวิดีโอบนเฟสบุ๊คอยู่ที่ 55 วินาที แต่เวลาในการชมเฉลี่ยอยู่ที่ 18 วินาทีเท่านั้น นั่นหมายความว่า มีเพียง 1 ใน 3 ของวิดีโอที่ถูกรับชมจากผู้ใช้จริงๆ
ด้านยูทูบพบว่า เพียง 30% ของผู้ใช้ที่ดูโฆษณาก่อนจะชมวิดีโอที่พวกเขาเลือกชม อีก 70% กด skip โฆษณา ปีที่ผ่านมายูทูบออกแพคเกจโฆษณา “bumper ad” คือผู้ชมไม่สามารถกด skip โฆษณาได้ใน 6 วินาที ให้เวลาสั้นๆ เพียง 6 วินาที เพื่อดึงความสนใจผู้ชมสู่สินค้าและแบรนด์


นักการตลาดต้องวางแผนที่จะสื่อสารแบรนด์ผ่านสื่อให้ได้ใน 6 วินาที และให้ข้อมูลครบถ้วนภายใน 18 วินาที ซึ่ง Google ศึกษาแล้วพบว่ามันเป็นไปได้จริงที่โฆษณา 6 วินาทีจะมีผลต่อการจดจำแบรนด์

Google พบว่าใน 489 แคมเปญโฆษณาที่ใช้กลยุทธ์ bumper ad ปีที่ผ่านมา สามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 61% จาก 9% ของแคมเปญทั้งหมด เมื่อโฆษณาแสดงอีกครั้ง มันให้ผลที่ดีขึ้นวิเคราะห์จาก 605 ชิ้นงานโฆษณา สัดส่วน 9 ใน 10 ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่า 38% ของแคมเปญ

ผลการศึกษานี้ไม่สามารถการันตีได้ในระยะยาว ยังมีหลายเคสที่ใช้เวลาโฆษณานาน แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดี สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเป็นพื้นฐานของการสื่อสารผ่านวิดีโอโฆษณาให้สำเร็จ โดยปกติคนจะดูวิดีโอสั้นในเฟสบุ๊ค หากแบรนด์พิจารณาที่จะเพิ่มวิดีโอสั้นๆ เพื่อทำการตลาดผสมผสานวิดีโอยาว

เล่าเรื่องไร้เสียง

จากการศึกษาพบว่ามีเพียง 21.8% ของวิดีโอเฟสบุ๊คมีการคลิกเพื่อเล่นวิดีโอ หมายความว่า วิดีโอส่วนใหญ่บนเฟสบุ๊ค ประมาน 80% ถูกเล่นโดยไร้เสียง ฉะนั้นวิดีโอจึงควรเพิ่มข้อความบรรยายในวิดีโอเพื่อสื่อสารกับผู้ชมให้มากขึ้น สื่อสารโดยไร้เสียงให้มากขึ้น จากข้อมูลบนเฟสบุ๊คพบว่า 12% ของวิดีโอโฆษณาที่มีข้อความแคปชั่นยาวๆถูกรับชม 
ตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการสื่อสารผ่านวิดีโอไร้เสียงคือ Buzzfeed ที่แสดงขั้นตอนการทำอาหารโดยใส่ข้อความในวิดีโอ ซึ่งผู้ชมสามารถเข้าใจทุกอย่างได้โดยไม่ต้องคลิกเล่นเพื่อฟังเสียง

ลองวิดีโอแนวตั้งดูบ้าง!

ตั้งแต่ปี 1927 วิดีโอโฆษณาแสดงเป็นแนวนอนมาตลอดจนยุคมือถือ อย่างไรก็ตามวิดีโอแนวนอนจะยังคงอยู่ไปอีก 100 ปี แต่จากการศึกษาพบว่า 70-80% ผู้ชมดูวิดีโอผ่านมือถือของพวกเขาในแนวตั้ง 


นี่คือความสำคัญของการสร้างวิดีโอโฆษณาอันจะเป็นที่จดจำไปอีกนานในยึคที่คอนเทนต์โตเร็วในมือถือ คนดูวิดีโอมากขึ้นในสื่อออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คที่จัดลำดับให้แสดงวิดีโอมากขึ้น แบรนด์เข้าสู่ยุคของวิดีโอบนมือถือ ซึ่ง 3 ปัจจัยในการเข้าถึงความสำเร็จจากการสื่อสารผ่านวิดีโอโฆษณาบนมือถือคือ เล่านเรื่องใน 6 วิหรือน้อยกว่า , เล่าเรื่องไร้เสียง และ วิดีโอแนวตั้ง จะช่วยให้แบรนด์สื่อสารและเข้าถึงผู้ชมได้แน่นอน

ที่มา: https://www.campaignasia.com