Where we are

MACO is Thailand

leading creative and innovative out of home media solution provider.

รวมเทคนิคคอนเทนท์มาร์เก็ตติ้งยุค 2018 ที่คุณควรรู้!

มี 2สิ่งที่สำคัญในปี 2561:
-คอนเทนท์ทางการตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
-ช่วงที่สร้างและกระจายคอนเทนท์ไป

มันคือเหตุผลที่ Seth Godin กล่าวว่า คอนเทนท์ทางการตลาด จะเป็นสิ่งเดียวที่ทิ้งเอาไว้ในโลกของการตลาด มันคือสิ่งจำเป็นและเหมาะกับยุคสมัยของอินเทอร์เน็ต แต่ในปี2561ก็เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของคอนเทนท์ทางการตลาดว่าช่องทางไหน เครื่องมือใด เทคนิคอะไร ที่นักการตลาดควรเลือกใช้ในการสร้างและกระจายคอนเทนทืออกไป

อะไรคือคอนเทนท์ในเทรน์ของตลาดที่คุณควรใช้ และทำอย่างไรในการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางการตลาดให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของแนวทางคอนเทนท์นั้น มาค้นหาความจริงกันเถอะ


[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 1] การทำการตลาดเพื่อย้ำความสนใจไปยังกลุ่มเป้าหมายเป็นตัวขับเคลื่อนในยุคนี้




มูลค่ารวมการใช้จ่ายโฆษณาแบบดิสเพลย์และการค้นหาในปี 2557  แต่ในปี่ 2561 งบการใช้จ่ายโฆษณาแบบดิสเพลส์กลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าแบบการค้นหาถึง 28% มันสร้างความประหลาดใจให้กับนักการตลาดเป็นอย่างยิ่ง

เหตุผลที่ดิสเพลสกลับมาฟื้นคืนชีพได้นั้นเพราะมันเป็นการตลาดที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายได้นั้นเอง

Remarketing เป็นการทำโฆษณาเพื่อติดตามผู้ที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราแล้ว แสดงโฆษณาให้กลุ่มคนเหล่านั้นเห็นอีกครั้ง เพื่อกลับไปกระตุ้นความสนใจและเตือนความจำของกลุ่มคนเหล่านั้น นีกการตลาดส่วนใหญ่สูญเสียเงินไปกับการทำการตลาดแบบนี้ที่สุด 



การเติบโตของงบประมาณโฆษณาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  - อัตรที่เปลี่ยนแปลงไปจริงๆที่เกิดจาการที่ลูกค้าเห็นโฆษณาได้มากขึ้น


ในปี2561 คาดการณ์ว่าการทำการทำโฆษณาแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่ดีที่สุดในยุคนี้ และเป็นสิ่งที่นักการตลาดส่วนใหญ่นิยมใช้กัน

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

ถ้าคุณมีลิสลูกค้าที่คลิ๊กเข้ามาดูสินค้าแต่ไม่ได้ทำการซื้อสินค้า คุณสมารถสร้างเพจFacebookที่มีการนำเสนอโปรโมชั่น หรือส่วนลดเพื่อจูงใจลูกค้กลุ่มนั้นได้
ถ้าคุณมีแอดเคาท์เหล่านี้คุณก็สามารถทำการโฆษณาและการตลาดแบบนี้ได้:
- Google Ad Remarketing 
- Facebook remarketing
- AdRoll
- RetargetLinks 

[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 2] การปรับเปลี่นคอนเทนท์ให้เข้ากับลูกค้าแต่ละคน

การตลาดที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ เป็นปัจจัยที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ
เห็นได้ชัดจากปี 2561 ที่นักการตลาดผลักดันการทำการตลาดแบบนี้

จากผลการสำรวจ
จาก 100ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลกล่าวว่าการทำการตลาดห้เข้ากับคนแต่ละกลุ่มจะเป็นการตลาดที่ประสบความสำเร็จได้
และจากผลสำรวจยังพบว่า 92%ของนักการตลาดกล่าวว่าการตลาดแบบปรับให้เข้ากับคนแต่ละกลุ่มเป็นที่สนใจของบริษัทต่างๆเพิ่มมากขึ้น

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

การทำการตลาดแบบเข้าถึงกลุ่มคนต่างๆได้นั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลของลูกค้าที่เรามี คอนเทนท์ส่วนใหญ่ที่จะออกไปมักเกิดจากการเก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่เข้ามามาใช้บริการให้เกิดประโยชน์ ดังนั้นถ้าคุณจะทำธุรกิจต่างๆ ควรต้องมีข้อมูลดังนี้
- ชื่อ
- อีเมล์
- ยูอาร์แอลของบริษัท
- ขนาดของบริษัท
- ขนาดของภาคส่วนต่างๆ และงบที่มี
- ตำแหน่ง
อีกอย่างนึงคือการใช้คอนเทนท์ที่แตกต่างกันกับกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน ด้วยการใช้ข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายมาสร้างคอนเทนท์ที่จะสามารถดึงดูดคนเหล่านั้นให้เลือกใช้สินค้าและบริการนั้นเอง


การแสดงแบนเนอร์เฉพาะให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นบนหน้าเว็บไซต์ดังรูปด้านบน

[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 3] การสร้างแบนด์ด้วยคอนเทนท์ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย


ไม่สำคัญว่าธุรกิจคุณอยู่ในอุตสาหกรรมไหน แต่สิ่งสำคัญคือคอนเทนท์แบบไหนที่คุณสร้างสรรค์ออกมา จากผลของตลาดท่เริ่มอิ่มตัวทำให้ในยุคปัจจุบันนักการตลาดมักจะสร้างสรรค์คอนเทนท์ออกมามากกว่ายุคก่อนเพื่อให้เกิดวามแตกต่างกว่าคู่แข่งและดึงดูดลูกค้าในกลุ่มเดียวกันมาให้ด้




ในปีนี้ นักการตลาดมักสู่กันด้วยคอนเทนท์เพื่อดึงดูดลูกค้า มากกว่าการทำการตลาดบนโซเซียลมีเดดียต่างๆ

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

เริ่มจากการกำหนดให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเฉพาะของบริษัทคือใคร และสร้างคอนเทนท์ที่สอดคล้องกับความเป็นตัวตนของคนกลุ่มเหล่านั้น ตัวอย่างเช่นคอนเทนทือะไรที่สามารถดึงดูดลูกค้าที่เป็นคุณพ่อวัย 40+ ให้สนใจสินค้าของบริษัทได้ ทำการสร้างและปรับเปลี่ยนคอนเทนท์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
 

[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 4] การปรับคอนเทนท์ให้ง่ายต่อคำค้นหาของกลุ่มเป้าหมาย

ในปัจจุบันนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการค้นหาจากการพิมพ์ ไปสู่การใช้เสียงในการค้นหาแทน โดยการค้นหาด้วยเสียงมีการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 20%ในการค้นหาบนกูเกิ้ลทางโทรศัพท็มือถือ

ซึ่งคนยุคใหม่ในปัจจุยบันนิยมใช้งานการค้นหาด้วยเสียง จากผลสำรวจกว่า 71% ของคนที่มีอายุในช่วง 18-29ใช้การค้นหาด้วยเสียง ส่วนคนที่อยู่ในช่วงอายุ 44-53ปีใช้ระบบการค้นหาแบบนี้ถึง 39%




คนรุ่นใหม่ที่มีช่วงอายุน้อยมักนิยมใช้การค้นหาด้วยเสียง มากกว่าคนที่อยู่ในช่วงอายุที่มาก โดยเด็กวัยรุ่นกว่า 31% ใช้การค้นหาด้วยเสียงเพื่อค้นหาการช่วยเหลือในการทำการบ้าน



ความนิยมในการใช้งานด้วยคำสั่งเสียงผ่านการใช้งานด้วยเครื่องมือช่วยเหลือของกูเกิ้ล และสิริ คุณสามารถเห็นผลลัพธ์ที่แสดงผลหลังการคำสั่งการค้นหาด้วยเสียง ตามรูปข้างล่างนี้

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

เนื่องจากคำสั่งเสียงมีความหลากหลายและเกิดความแตกต่างได้มากกว่า การพิมพ์ค้นหา ดังนั้นการสร้่งคอนเทนท์จึงจำ้ป็นต้องปรับเปลี่ยนให้ง่ายต่อภาาาที่ใช้ในการค้นหาได้มากกว่าแต่ก่อน เพราะแทนที่ที่จะให้ความสนใจกับตัวคีย์บอร์ดด ต้องเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับการแสดงผลหรือการแสดงคำค้นหาผ่านระบบการใช้เสียงให้เหมือนการตอบโต้กันไปมาของมนุษย์ให้มากขึ้นกว่าเดิม

อะไรคือเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก นี่คือสิ่งที่คุณควรทำ:
- การเขียนทุกอย่างให้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งคำถามและคำตอบ ดีกว่าการเขียนแบบแบ่งย่อยๆ ออกไปหลายๆประโยค
- กำหนดประโยคและใจความของหัวเรื่องให้เฉพาะเจาะจง
- กำหนดคีย์เวิร์ดเพื่อระบบการค้นหาด้วยเสียง และพยายามใช้คำที่เป็นธรรมชาติทั่วไปที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้สำหรับเรื่องนั้นๆ
- การค้นหาด้วยระบบเสียงส่วนใหญ่มาจากการค้นหาผ่านมือถือ ต้องมั่นใจว่าการค้นหาด้วยระบบเสียงของคุณเหมาะสมกับการใช้มือถือในการค้นหานี้
- ใช้คอนเทนท์ที่เป็นภาาาทั่วไป ไม่ใช่ภาษาที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมใช้กัน เพื่อง่ายต่อการค้นหา
- ลองใช้การค้นหาทางกูเกิ้ลเพื่อทดสอบค้นหาคำคีย์เวิร์คที่กำหนดไว้ ว่าได้รับการแสดงผลที่บริษัทต้องการจะได้รับไหม

จากคำแนะนำด้านบนจะทำให้เพิ่มโอกาสการแสดงผลคอนเทนท์ของคุณ ให้แสดงอยู่บนลิสต์คำตอบของผู้ที่ใช้ระบบการค้นหาด้วยเสียงบนเวํบไซต์ต่างๆได้

[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 5] การทำให้คอนเทนท์กระชับ

นักการตลาดทำคอนเทนท์ที่ยาวขึ้นๆเรื่อยๆ จากผลสำรวจความยาวของคอนเทนท์ที่โพสในบล็อคจากกราฟข้างล่าจะเห็นว่าปริมาณตัวอักษรในคอนเทนท์นันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากปี 2014-2016






แต่ในความเป็นจริงในยุคนี้ เป้าหมายของการตลาดในยุคปัจจุบันมันยากต่อการคาดเดา ดังนั้นในยุคนี้มักต้องการผลตอบแทนของการลงทุนอย่างรวดเร็ว จากกรณีศึกษาคนทั่วไปกว่า 59% มักชอบคอนเทนท์ที่เป็นวีดีโอและอินโฟกราฟฟิค แต่อีก78% ของกลุ่มคนที่มีอายุสูงมักชอบคอนเทน์ที่มีเนื้อหาโดยละเอียด

นักการตลาดเริ่มเปลี่ยนแปลงการเขียนคอนเทนท์ให้กระชับขึ้น แต่มีเนื้อหาใจความที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อให้คนสนใจ ความยาวของการโพสคอนเทนท์บางคอนเทนท์ก็ใช้จำนวนตัวอักษรแค่เพียง 200คำและภาพประกอย ในการอธิบายคอนเทนท์เหล่านั้น

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

แทนที่จะสร้างคอนเทนท์ที่มีความยาวมากๆในทุกๆหัวเรื่อง ก็เปลี่ยนมาใช้การผสมผสานระหว่างตัวอักษรและรูปสัญลักษณ์ต่างๆแทน ดังตัวอย่างในรูปด้านล่าง







ดังนั้นเวลาที่คุณจะสร้างสรรค์คอนเทนท์ต่างๆ ลองพิจารณาดูว่าคอนเทนท์นี้จำเป็นต้องใช้คำมากมายถึง 1,500คำเลยหรือไม่ คุณสามารถใช้รูปแบบของกราฟฟิคเข้ามาแทนที่คอนเทนท์ที่ยาวๆแทนได้ไหม

[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 6] กลยุทธ์อิทธิพลทางการตลาดจะเปลี่ยนแปลงไป

การตลาดแบบใช้อิทธิพลทางความคิด ที่เป็นที่นิยมในช่วง10ปีหลังมานี้ ด้วยเตุผลง่ายๆเพียงมันได้ผลในตลาดในช่วงที่ผ่านมา

กว่า 92%ของคนส่วนใหญ่เชื่อการแนะนำจากสิ่งที่คนที่มีอิทธิพลในการตลาดแนะนำสินค้าหรือแบรนด์ต่างๆเหล่านั้น 



เทรน์การใช้งานบนกูเกิ้ลแสดงให้เห็นผลของการใช้กลยุทธ์ของผู้มีอิทธิพลทางความคิดในตลาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้  โดยสิ่งที่คนสนใจค้นหานั้นทำให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างความแตกต่างระหว่างการตลาดแบบอิทธิพลทางความคิดกับแบบการใช้โฆษณาในรูปแบบของวีดีโอที่สูงกว่าการตลาดแบบเดิม




สิ่งที่เกิดขึ้นในกลยุทธ์นี้คือการหลอกลวงหรือบิดเบือนความเป็นจริง
- ผู้ใช้บริการที่ประสบกับเหตุการณ์เหล่านี้จะรวมตัวกันตอบโต้สินค้าและบริการเหล่านั้น
- ผู้ใช้บริการต้องการความจริงของสินค้าและบริการเหล่านั้น

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

แทนที่จะสนใจแต่จำนวนผู้บริโภค ควรให้ความสำคัญกับการเลือกผู้มัอิทธิพลในการโฆษณาสินค้าและบริการเหล่านี้ที่มีค่านิยมตรงกับกลุ้มเป้าหมายแทนถึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด คุณจะต้องรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าไว้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

กลยุทธ์การร่วมมือกันระหว่างผู้มีอิทธิพลทางความคิดมางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่มีอิทธิพลต่อตลาดเช้นกัน มาทำการโฆษณาสินค้าเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีตามมา

เริ่มจากการดำเนินการดังต่อไปนี้:
- สร้างแคมเปญทางการตลาดต่างๆที่เข้ากับกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางความคิด
- เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์และสินค้าผ่านการโฆษณาจากผู้ใช้งานจริง อาทิเช่น บทสัมภาษณ์ บทวิเคราะห์ต่างๆของผู้ที่ใช้งานจริง
- ติดตามผลของตัวชี้วัดต่างๆของยอดขายและการรับรู้ถึงแบรนด์

[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 7] ลูกค้าคาดหวังความเป็นโปร่งใสหรือความเป็นจริง

คนทั่วไปและผู้บริโภทุกคนต้องการความโปร่งใสจากเจ้าของสินค้าและบริการ เพราะถ้าแบรนด์หรือบริษัทเหล่านั้นไม่ซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค ก็จะทำให้เกิดการร้องเรียนตามมา อาทิเช่น แบรนด์สินค้าบอกว่าผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือเมื่อผู้บริโภคซื้อสินค้าของบริษัทแล้วรายได้ส่วนนึงจะนำไปบริจาค แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่เป็นไปตามที่กล่าวไว้ ผู้บริโภคก็จะร้องเรียนแบรนด์สินค้าเหล่านั้น และทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์เหล่านั้นเสียงหายได้

เมื่อเวลาผ่านไปคนส่วนใหญ่พยายามที่จะสร้างแบรนด์ให้มีความหมายขึ้น และการเปิดเผยทุกอย่างที่เป็นความจริงเกี่ยวกับสินค้าและบริการเป็นทางที่ดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่แบรนด์เหล่านั้นทำออกมาจะสอดคล้องกับพันธกิจและลักษณะทางธึรกิจของแบรนด์เหล่านั้นโดยตรง


ในปี 2015 ผลการสำรวจจากนีลสันเปิดเผยสิ่งที่ลูกค้าให้ความเขื่อถือตามตารางด้านล่างนี้


(Source)

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

ตามมาตราฐานของการโฆษณาหรือASB และกฏหมายแนวทางธุรกิจทางอิเล็กโทรนิกส์ของสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาคุ้มครองผู้บริโภค ให้ได้รับความโปร่งใสหรือความเป็นจริงของผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆตามกฏข้อบังคับของการทำโฆษณานั้นเอง

ตัวอย่าง การระบุรายละเอียดของสินค้าดังรูปด้าานล่าง


คอนเทนท์ต้องโปร่งใสเป็นความจริง
ต้องแสดงความโปร่งใสทั้งหมดไม่ปกปิดความจริงใดๆ เช่น การกล่าวถึงแบรนด์หรือใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการต่างๆเป็นต้น

ต้องอัปเดตสินค้าและบริการให้ตรงตามกฏข้อบังคับต่างๆอยู่เสมอ
สังเกตุว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็นไปตามสิ่งที่โฆษณาระบุไว้จริงหรือไม่

[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 8] กลยุทธ์การใช้วีดีโอ

การใช้วีดีโอเข้ามามีบทบาทที่สำคัญ ในช่วงปี 2011-2015 ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมการใช้งานในรูปแบบของวีดีโอ โดยค่าเฉลี่ยการใช้งานอยู่ที่ 39 -115 นาทีทุกวัน



จากการสำรวจของCiscoในปี 2017 ผู้บริโภคใช้งานวีดีโอบนอินเทอร์เน็ตกว่า 69% จากผู้ใช้งานทั้งหมด ความต้องการคอนเทนท์ในรูปแบบของวีดีโอเพิ่มขึ้นเป็น 3เท่าในปีหน้า ท่ามกลางการทำการตลาด วิดีโอเริ่มกลายมาเป็นคอนเทนท์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เห็นได้จากผลสำรวจกว่า 86%ของนักการตลาดนิยมใช้วีดีโอในการทำการตลาด




ในปัจจุบัน 29% ของการดูวีดีโอบนโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น ดังนั้นในยุคนี้ถ้าคุณไม่ลงทุนในการทำการตลาดด้วยการใช้วีดีโอ ถือว่าคุณนั้นตกเทรน์เป็นอย่างมาก
 

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

เริ่มด้วยการแชร์คอนเทนท์ในรูปแบบของวีดีโอ โดยอาจจะเริ่มจากการแชร์คลิปเบื้องหลังของการถ่ายทำโฆษณาก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี 

ในเวลาเดียวกันนั้นก็ควนลทุนในการทำวีดีโอในรูปแบบที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง อย่างการใช้ IG Twister Facebook ซึ่งเป็นช่องทางที่ง่ายต่อการแพร่กระจายวีดีโอของคุณ
 

[คอนเทนท์ทางการตลาดที่  9] การใช้การวิธีการถ่ายทอดสด

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ในโลกของดิจิทัลที่การถ่ายทอดสดนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วง2ปีที่ผ่านมา เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน ผู้บริโภคกว่า 80% นิยมรับชมวีดีโอการถ่ายทอดสดมากกว่าการอ่านข้อความในบล็อคต่างๆ

Facebook คืออันดับหนึ่งในแพลตฟอร์มของการใช้วีดีโอถ่ายทอดสด ในปี2017 โดยการรับชมผ่านวีดีโอการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้น 3เท่า มากกว่าการถ่ายทอดสดในรูปแบบวีดีโอแบบอัดเก็บไว้ในสมัยก่อน ในขณะนี้มากกว่า 60% ของนักการตลาดในปัจจุบันลงทุนในการโฆษณาแบบวีดีโอถ่ายทอดสด 

(Source)

ถ้าผลสำรวจของ Cisco ถูกต้องการ อัตราการเข้าชมคอนเทนท์ในรูปแบบของวีดีโอจะเพิ่มขึ้น 80% ในปี 2019

 

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

สิ่งที่ดีที่สุดของกลยุทธ์นี้คือ มันไม่จำเป็นต้องใช้การลงทุนที่ฟุ่มเฟื่อย เพราะการถ่ายทอดวีดีโอแบบไลฟ์สดนั้น สามารถใช้โทรศัพท์มือถือ ในการถ่ายทอดสดได้เลย

รูปแบบในการตอบคำถาม
มันเป็นหนทางที่ง่ายในการตอบคำถามของผู้บริโภคแต่ละคนได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมันสามารถตอบคำถามในช่วงที่ทำการถ่ายทอดสดอยู่ได้เลย ด้วยการตอบคำถามที่ผู้บริโภคพิมพ์เข้ามาถามในช่วงระหว่างการถ่ายทอดสด


Host Live Interviews
แทนที่จะใช้การสัมภาษณ์บุคคลที่เป็นผู้เชียวชาญต่างๆ คุณสามารถใช้ช่องทางของคุณเป็นเจ้าบ้านในการถ่ายทอดสดระหว่างผู้เชี่ยวชาญกับผู้บริโภคในการทำการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นได้เลย ดังสุภาษิตยิ่งปืนนัดเดียวได้นกทั้งสองตัว

ถ่ายทอดสดงานอีเว้นท์และงานแถลงข่าวต่างๆ
การถ่ายทอดสดงานต่างๆออกไป ยังสามารถเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคได้มากขึ้น จากผู้ที่เข้ามารับบชมการถ่ายทอดสดของคนที่ไม่ได้มาร่วมงานนั้นๆ


[คอนเทนท์ทางการตลาดที่ 10] เปลี่ยนแปลงขั้นตอนการสร้างคอนเทอนท์

ในช่วงไม่กี่ปีทีี่ผ่านมา นักการตลาดที่ทำคอนเทนท์ทางการตลาด ที่ไม่ใช่การเขียนหรือการใช้วีดีโอในการเผยแพร่คอนเทนท์ โดยนักการตลาดเหล่านี้จะพิจารณาการสร้างรูปแบบในการใช้เผยแพร่คอนเทนท์ให้เหมาะกับคอนเทนท์ที่แตกต่างกันออกไป

ปัจจุบันมีรูปแบบการเผยแพร่คอนเทนท์ที่หลากหลาย อาทิเช่น การโพสในบล็อค วีดีโอ อินโฟกรฟฟิค รูปภาพ และอื่นๆ  ถ้าคุณไม่รับรู้ถึงการทำงานของช่องทางเหล่านี้คุณอาจจะสูญเสียช่องทางที่เหมาะสมในการเผยแพร่คอนเทนท์ของคุณได้

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการเผยแพร่คอนเทนท์เหล่านี้ 

บริษัทหรือองค์กรที่สามารถขับเคลื่อนคอนเทนท์ออกไปได้อย่างแพร่หลาย กราฟด้านล่างแสดงข้อมูลเทคนิคการเผยแพร่คอนเทนท์ออกไปของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ


(Source)

วิธีการนำเทรน์นี้มาใช้

เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
ก่อนที่คุณจะสร้างคอน้ทนท์ที่แตกต่าง คุณต้องรู้ก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ 

ความหลากหลาย
สร้างรูปแบบคอนเทนท์ที่เหมาะสมกับกับรูปแบบของการบริโภค

www.coredna.com